แถลงการณ์ของทำเนียบประธานาธิบดีซีเรีย แถลงว่า เมื่อวันจันทร์(3 ก.พ.68) เกิดเหตุระเบิดรถยนต์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 รายในเมืองมานบิจ ทางตอนเหนือของซีเรีย ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนตุรกีประมาณ 30 กม. จะเร่งดำเนินการเอาผิดกับผู้ก่อเหตุที่เรียกว่าการโจมตีด้วยการก่อการร้าย ยังไม่มีรายงานว่ากลุ่มใดเป็นผู้ก่อเหตุ
หน่วยกู้ภัยป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 ราย เป็นผู้หญิง และหญิงอีก 15 คน ได้รับบาดเจ็บ ผู้เคราะห์ร้ายเป็นคนงานภาคการเกษตร จำนวนผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น เป็นเหตุการณ์โจมตีครั้งที่สองในรอบสามวัน และเป็นเหตุรุนแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประเทศ นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ถูกโค่นลงจากอำนาจ เมื่อเดือนธ.ค.67
สำนักข่าวซานาของซีเรีย รายงานว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุระเบิดรถยนต์ ย้อนไปเมื่อวันเสาร์(1 ก.พ.68) เกิดเหตุระเบิดในรถยนต์ในเมืองดังกล่าว มีประชาชนเสียชีวิต 4 ราย และบาดเจ็บอีก 9 คน รวมถึงเด็กๆ
การสู้รบในพื้นที่มานบิจ ยังคงดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด แม้ว่ากองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย( SDF)ที่นำโดยชาวเคิร์ด และได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ จะพยายามเจรจาหยุดยิงก็ตาม
นายอัคเหม็ด อัล-ชารา ผู้นำซีเรีย ในฐานะที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานาธิบดีรักษาการ เปิดเผยระหว่างการเดินทางเยือนซาอุดิอาระเบียว่า การจัดการเลือกตั้งอาจต้องใช้เวลานาน4- 5 ปี ฟาเรตติน อัลตุน หัวหน้าฝ่ายสื่อสารของตำแหน่งประธานาธิบดี กล่าวใน X ว่า นายชารา จะพบกับประธานาธิบดีตุรกี เรเจป ทายิป แอร์โดอัน เพื่อหารือถึงขั้นตอนร่วมกันที่จะดำเนินการเพื่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เสถียรภาพและความมั่นคงที่ยั่งยืน
#ซีเรีย
#ระเบิดรถยนต์