การลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดวันอังคารที่ 4 ก.พ.68
-ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,556.04 จุด เพิ่มขึ้น 134.13 จุด หรือ +0.30%
-ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,037.88 จุด เพิ่มขึ้น 43.31 จุด หรือ +0.72%
-ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,654.02 จุด เพิ่มขึ้น 262.06 จุด หรือ +1.35%
มาตรการภาษีนำเข้าครั้งใหม่ 10% ที่สหรัฐฯ ประกาศใช้กับจีนนั้นเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันอังคาร จีนตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีนำเข้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐฯ ในอัตรา 15% และเรียกเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันดิบ อุปกรณ์ด้านการเกษตร และรถยนต์บางประเภท ในอัตรา 10% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.68
แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวของ Fox Business Network ว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีนได้ติดต่อมาที่ประธานาธิบดีทรัมป์ เพื่อจะพูดคุยเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากร โดยผู้นำทั้งสองประเทศอาจจะเริ่มเจรจากันในไม่ช้านี้ แม้ยังไม่มีการระบุวันที่แน่นอนว่าผู้นำทั้งสองประเทศจะเจรจากันเมื่อใดและประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวว่า เขาไม่รีบร้อนในเรื่องนี้ แต่นักลงทุนคาดหวังว่าการเจรจาของผู้นำจีนและสหรัฐฯ อาจจะนำไปสู่การชะลอเวลาเรียกเก็บภาษี
ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัท 211 แห่งในดัชนี S&P500 ที่ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 4/2567 ไปแล้วนั้น มีบริษัท 76.8% ที่รายงานผลประกอบการสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นักลงทุนจะจับตาตลาดหุ้นจีนซึ่งจะกลับมาเปิดทำการซื้อขายอีกครั้งในวันนี้หลังจากหยุดยาวเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ขณะที่เมื่อวานนี้ รัฐบาลจีนได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพื่อเป็นการตอบโต้ที่สหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าสินค้าออกของจีน
ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ที่จีนตัดสินใจปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าบางรายการจากสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้ที่เขาเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 10% จากสินค้าจีน และกล่าวว่า เขาไม่รีบเร่งที่จะพูดคุยกับประธานาธิบดีจีน
#กำแพงภาษี
#สหรัฐ
#จีน
แฟ้มภาพ