สตม.ออก3มาตรการเข้มคัดกรองเข้า-ออกแนวชายแดน ป้องกันหลอกร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์

วันนี้, 14:22น.


          พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. ได้สั่งการให้หน่วยในสังกัดดำเนินการตามสั่งการของ ผบ.ตร. โดยกำหนดมาตรการในการดำเนินการ 3 มาตรการ โดยให้เริ่มปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.2568 ดังนี้



          1. มาตรการในการคัดกรองคนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร  ให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยาน และด่านตรวจคนเข้าเมืองตามแนวชายแดน คัดกรองคนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง, คัดกรองบุคคลต้องห้ามที่ถูกบันทึกไว้ในระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมือง, Red Notice ของตำรวจสากล และคัดกรองบุคคลเพื่อหาข้อบ่งชี้ว่าอาจตกเป็นผู้เสียหายการค้ามนุษย์ตามกลไก NRM โดยกำหนดแนวทางการปฏิบัติเป็นมาตรฐาน หรือ SOP เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสามารถใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งข้อมูลบุคคลให้เจ้าหน้าที่สืบสวนเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลดำเนินการต่อไป โดยตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.2568 ถึงปัจจุบัน ได้ปฏิเสธการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร จำนวน 2,339 ราย(เมียนมา 933 ราย, ลาว 625 ราย, จีน 298 ราย, อินเดีย 110 ราย, กัมพูชา 61 ราย, เวียดนาม 33 ราย และ อื่น ๆ 279 ราย)



           2. มาตรการในการสกัดกั้นคนต่างด้าวที่เดินทาง หรือจะเดินทางไปยังพื้นที่เฝ้าระวัง โดยวิเคราะห์จากสถานการณ์ในห้วงเดือนที่ผ่านมา มีคนต่างด้าวถูกหลอกลวงจากแก๊ง Cyber Scamsได้เดินทางเข้ามายังประเทศไทย ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน ลักลอบเดินทางออกตามช่องทางธรรมชาติ โดยเฉพาะในพื้นที่ จว.ตาก ออกไปยังประเทศเมียนมา และต่อมาถูกบังคับใช้แรงงาน อันเป็นรูปแบบหนึ่งของการค้ามนุษย์ จึงให้ทุกหน่วยในสังกัด วางมาตรการในการสกัดกั้นไม่ให้คนต่างด้าวที่อาจตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ เดินทางเข้าไปยังพื้นที่เฝ้าระวังโดยไม่มีเหตุอันสมควร และให้จัดเก็บข้อมูลบุคคล ยานพาหนะ ส่งให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน โดยตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.2568 ถึงปัจจุบัน มีการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไปในพื้นที่ อ.แม่สอด จว.ตาก จำนวน 1,161 ราย เปลี่ยนใจเดินทางกลับ 23 ราย (จีน 7 ราย, อินโดนีเซีย 10 ราย, อินเดีย 3 ราย, เวียดนาม 2 ราย และ ไนจีเรีย 1 ราย)   



          3. มาตรการในการสืบสวนสอบสวนป้องกันเหตุ, การสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีและขยายผล ให้ทุกหน่วยจัดทำข้อมูลเครือข่ายการลักลอบคนคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร เครือข่ายขนคนผ่านแดน รวมถึงผู้ช่วยเหลือ สนับสนุน อาทิเช่น กลุ่มเครือข่ายรถรับจ้างสาธารณะ หรือรถขนส่งผิดกฎหมาย ที่อาจเข้าไปเกี่ยวข้อง ช่วยเหลือ หรือสนับสนุนในการลักลอบคนคนต่างด้าวไปยังประเทศเพื่อนบ้านของไทย ประสานงานกับฝ่ายข่าว หน่วยทหาร ส่วนราชการ และสถานเอกอัครราชทูตประเทศต่าง ๆ ในประเทศไทย เพื่อจัดทำข้อมูลบุคคลเฝ้าระวัง และรวบรวมข้อมูลบุคคล, ยานพาหนะ วิเคราะห์และบันทึกพฤติการณ์ไว้ในระบบเฝ้าดู (Watch List) เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองใช้กำหนดแนวทางในการคัดกรองคนเข้าเมือง โดยได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีและขยายผล



#3มาตรการเข้มสกัดถูกหลอก



#หลอกเข้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์



Cr:เพจImmigration Bureau

ข่าวทั้งหมด

X