หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์พุ่งขึ้น 8.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.4 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 900,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสองประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ของโลก
-สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.68 ลดลง 1.67 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 71.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
-สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.68 ลดลง 1.59 ดอลลาร์ หรือ 2.09% ปิดที่ 74.61 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนจับตาการใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งให้ใช้ มาตรการกดดันทางเศรษฐกิจขั้นสูงสุด ต่ออิหร่าน ซึ่งมีเป้าหมายที่จะทำให้การส่งออกน้ำมันของอิหร่านลดลงเหลือศูนย์ ขณะที่นายมาซูด เปเซชเคียน ประธานาธิบดีอิหร่าน เรียกร้องให้สมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) รวมตัวกันต่อต้านมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ อิหร่านซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 3 ในกลุ่มโอเปกนั้น สามารถผลิตน้ำมันได้ 3.3 ล้านบาร์เรล/วัน หรือประมาณ 3% ของการผลิตทั่วโลก
#น้ำมันโลกร่วง
#สหรัฐคว่ำบาตรน้ำมันอิหร่าน
แฟ้มภาพ