ดีอี กำชับโมบายแบงกิ้ง แจ้งเตือนผ่าน App เท่านั้น กสทช.เสริมบล็อกเส้นทางเงินแก๊งคอลฯ

          นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้เริ่มการบังคับใช้มาตรการยกระดับความปลอดภัยในการใช้ Mobile Banking โดยมีการแจ้งเตือนผู้ใช้งานแอปพลิเคชั่นที่มีซิมหมายเลขโทรศัพท์ไม่ตรงกัน ต้องยืนยันตัวตน ภายในวันที่ 30 เมษายน นี้ เท่านั้น ย้ำว่าธนาคารจะแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชัน Mobile Banking ของแต่ละธนาคารเท่านั้น โดยไม่มีการแจ้งเตือนผ่านทางช่องทางอื่น ๆ เพื่อป้องกันมิจฉาชีพแอบอ้าง 

          สำหรับกลุ่มที่ต้องยืนยันตัวตน มี 2 กลุ่ม คือ

          กลุ่มลูกค้าที่ไม่พบข้อมูลชื่อเจ้าของซิม ซึ่งเปิดบัญชีตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 จำนวน 2,364,370 ราย

          และกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ที่ชื่อเจ้าของซิม/Mobile Banking ไม่ตรงกัน ซึ่งเปิดบัญชีตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 จำนวน 811,645 ราย

          หากพบการแจ้งเตือนด้วยการโทรติดต่อโดยตรง หรือการส่งข้อความ SMS แนบลิงก์ ขอให้หลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือการกระทำใดๆ ที่อาจส่งผลกระทบสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและข้อมูลส่วนบุคคลได้

          ส่วนสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ สำนักงาน กสทช. ได้ออกแนวทางในการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม เพื่อให้บรรลุภารกิจของรัฐบาลในการแก้ปัญหาคอลเซนเตอร์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการนำสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่บริเวณแนวชายแดนไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมายส่งผลเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ และเป็นภัยทางสังคมของประเทศ โดยกำหนดให้

          (1) ให้ธนาคารส่งข้อมูล IP Address ของคนร้ายที่ใช้ Mobile Banking โอนเงิน และ IP ของเครื่องแม่ข่ายที่คนร้ายใช้โอนเงินผ่านธนาคาร ให้กับตำรวจเพื่อตรวจสอบเส้นทางการทำธุรกรรมทางการเงินของคนร้าย

          (2) ให้สำนักงานตำรวจสอบสวนกลาง และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ส่งข้อมูล IP Address ของคนร้ายให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider หรือ ISP) ในประเทศ ประกอบด้วย IP Address, เวลาที่ใช้ในการส่งข้อมูล (Timestamp), IP Address ปลายทางของเครื่องแม่ข่ายที่คนร้ายใช้โอนเงินผ่านธนาคาร, เลขหมายคดีที่ผู้เสียหายแจ้งความต่อตำรวจ (Case ID) และส่งข้อมูล URL คนร้ายให้แก่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อดำเนินการ

          (3) ให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตระงับการใช้งานของคนร้ายชั่วคราว และตรวจสอบพร้อมจัดทำข้อมูลผู้ใช้งาน ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อจะได้ระงับความเสียหายได้ทันท่วงที

          หากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใด ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์นี้ อาจเข้าข่ายกระทำความผิดตามเงื่อนไขการประกอบกิจการโทรคมนาคม โดยสำนักงาน กสทช. จะได้ดำเนินการลงโทษตามกฎหมายต่อไป

...

#โมบายแบงกิ้ง

#สกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์

#กระทรวงดีอี

#กสทช