ตลาดน้ำมัน ติดตามสถานการณ์ หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมในอัตรา 25% จากทุกประเทศ ข่าวดังกล่าวส่งผลให้สหภาพยุโรป (EU) เตรียมดำเนินมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ
-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมี.ค.68 เพิ่มขึ้น 1.86% ปิดที่ 72.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
-เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเม.ย.68 เพิ่มขึ้น 1.62% ปิดที่ 75.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมัน ปิดตลาดวันจันทร์(10ก.พ.68) เป็นผลจากการช้อนซื้อเพื่อเก็งกำไรของนักลงทุน หลังตลาดขยับลง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางแรงกดดันเกี่ยวกับการค้าโลก
เวลา 00.03 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนมี.ค.68 บวก 1.03 ดอลลาร์ หรือ 1.83% สู่ระดับ 72.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
นอกจากนี้ ตลาดติดตามประเด็นที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่อิหร่านหลายราย รวมถึงเรือบรรทุกน้ำมันที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งน้ำมันดิบอิหร่านจำนวนหลายล้านบาร์เรลต่อปีไปยังจีน เพื่อเพิ่มแรงกดดันต่ออิหร่านตามนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์
ประธานาธิบดีมาซูด เปเซชเคียน แห่งอิหร่าน กล่าวปราศรัยที่จัตุรัสอาซาดี กรุงเตหะราน เนื่องในวันครบรอบ 46 ปีการปฏิวัติอิหร่าน กล่าวประณามประธานาธิบดีทรัมป์ ว่าดำเนินนโยบายทางการทูตที่ไม่มีความจริงใจ เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของสหรัฐฯ คือพยายามบ่อนทำลาย ย้ำว่า อิหร่านไม่ต้องการสงคราม แต่ก็จะไม่ยอมแพ้ให้กับต่างชาติ
รัฐบาลอิหร่านมีความไม่พอใจที่ประธานาธิบดีทรัมป์ กลับมาใช้นโยบายกดดันสูงสุด ออกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเมื่อต้นเดือนนี้ (ก.พ.68) ต่อเนื่องจากที่เคยเริ่มไว้เมื่อครั้งที่เขาดำรงตำแหน่งสมัยแรก เพื่อทำลายการส่งออกน้ำมันและโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่ในเวลาเดียวกัน ประธานาธิบดีทรัมป์ กลับแสดงเจตนาว่าต้องการบรรลุข้อตกลงกับอิหร่านเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์
#น้ำมันโลก
#สงครามการค้า
#สหรัฐคว่ำบาตรอิหร่าน
แฟ้มภาพ