แนวทางการรักษาโรคมะเร็ง ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana ระบุว่า นวัตกรรมชิ้นนึงได้ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Communications โดยเสนอทางเลือกใหม่ที่อาจเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาโรคมะเร็งได้มากขึ้น ในงานวิจัยนี้ทีมนักวิจัยจาก Shanghai Jiao Tong University ในประเทศจีนได้พัฒนาระบบนำส่งยาแบบหลายขั้นตอนที่เรียกว่า DMSN@Pla-Lipo ซึ่งเป็นอนุภาคนาโนที่มีความพิเศษในการตอบสนองต่อเอนไซม์ sPLA2 ที่พบมากในเซลล์มะเร็ง นวัตกรรมนี้ถือเป็นการค้นพบที่สำคัญเนื่องจากสามารถเข้าถึงและรักษาทั้งมะเร็งลำไส้ใหญ่และการแพร่กระจายในต่อมน้ำเหลืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องพึ่งพาการผ่าตัดที่มีความเสี่ยงสูง การออกแบบระบบนี้อาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับกลไกการแพร่กระจายของมะเร็งและการทำงานของระบบน้ำเหลือง
ระบบนี้ทำงานด้วยกลไกที่น่าสนใจหลายขั้นตอน เริ่มต้นด้วยการที่อนุภาคนาโนถูกห่อหุ้มด้วยไขมันชั้นพิเศษที่มีความไวต่อเอนไซม์ sPLA2 ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่พบมากในบริเวณเซลล์มะเร็ง เมื่อระบบนำส่งยานี้เข้าสู่บริเวณเนื้องอก เอนไซม์ดังกล่าวจะทำปฏิกิริยากับชั้นไขมันที่ห่อหุ้มอยู่ ทำให้เกิดการแตกตัวและปลดปล่อยอนุภาคนาโนขนาดเล็ก (DMSN) ที่บรรจุยาเคมีบำบัดอยู่ภายใน คุณสมบัติพิเศษของอนุภาค DMSN ที่มีขนาดเพียง 40 นาโนเมตร ทำให้สามารถแทรกซึมเข้าสู่เนื้องอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญคือสามารถเดินทางผ่านระบบน้ำเหลืองไปยังต่อมน้ำเหลืองที่มีการแพร่กระจายของมะเร็งได้อย่างแม่นยำ
การออกแบบให้มีขนาดที่เหมาะสมนี้เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ระบบสามารถเข้าถึงเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลการทดลองในหนูทดลองได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่โดดเด่นของระบบนี้ โดยสามารถยับยั้งการเติบโตของเนื้องอกหลักได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญคือความสามารถในการกำจัดเซลล์มะเร็งในต่อมน้ำเหลืองได้อย่างเฉพาะเจาะจง นอกจากนี้ ระบบยังสามารถป้องกันการแพร่กระจายของมะเร็งไปยังอวัยวะสำคัญอื่นๆ ผ่านกลไกการยับยั้งวิถีการแพร่กระจายของมะเร็งที่สำคัญหลายชนิด ได้แก่ TGF-β signaling ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของเซลล์มะเร็ง Wnt signaling ที่ควบคุมการแบ่งตัวของเซลล์ และ Hippo signaling ที่มีบทบาทในการควบคุมการเจริญเติบโตของเนื้องอก
ผลการรักษานี้สะท้อนให้เห็นจากอัตราการรอดชีวิตของหนูทดลองที่สูงถึง 80% ในระยะเวลา 90 วัน ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่น่าพอใจมากสำหรับการรักษามะเร็งที่มีการแพร่กระจาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับวิธีการรักษาแบบดั้งเดิมที่มักให้ผลการรักษาที่ต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญ
การศึกษายังได้แสดงให้เห็นถึงความปลอดภัยของระบบโดยไม่พบความเป็นพิษต่ออวัยวะสำคัญและระบบเลือด การวิเคราะห์ในระดับโมเลกุลแสดงให้เห็นว่าการรักษานี้สามารถลดการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับการแพร่กระจายของมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ระบบยังมีความเสถียรในสภาวะที่มีซีรัม ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญสำหรับการนำไปใช้ในทางคลินิกความสำคัญของการค้นพบนี้ยิ่งเด่นชัดขึ้นเมื่อพิจารณาข้อมูลย้อนหลังจากผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่จำนวน 230 ราย ที่พบว่าผู้ป่วยที่มีการแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองมีอัตราการรอดชีวิตที่ต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะได้รับการผ่าตัดแบบถอนรากถอนโคนแล้วก็ตาม
ระบบนำส่งยาแบบใหม่นี้จึงเป็นความหวังสำคัญในการเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วย นอกจากการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่แล้ว การค้นพบนี้ยังเปิดโอกาสในการพัฒนาการรักษามะเร็งชนิดอื่นๆ ที่มีการแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งรังไข่ ด้วยการปรับแต่งระบบนำส่งยาให้เหมาะสมกับแต่ละชนิดของมะเร็ง นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาการรักษามะเร็งแบบแม่นยำ (Precision Medicine) ที่มีประสิทธิภาพสูงและผลข้างเคียงต่ำ ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงวิธีการรักษามะเร็งในอนาคต
#รักษามะเร็ง