หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงว่า เนื่องจากรัฐบาลได้รับข้อร้องเรียนจากภาคธุรกิจค่อนข้างเยอะและหลากหลายกลุ่มในเรื่องข้อจำกัดทางกฎหมายในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจะเป็นอุปสรรคในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และไม่สอดคล้องกับนโยบายที่สิ้นปีนี้รัฐบาลจะส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว ในธีมของ “อเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์ทัวร์ริซึม แอนด์ สปอร์ตเยียร์” จึงได้มีการสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ศึกษาเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นศึกษาในเรื่องที่ห้ามขาย ตั้งแต่เวลา 14.00-17.00 น. หรือว่า วันสำคัญทางพุทธศาสนาต่างๆ ว่า เรื่องนี้กระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างไรบ้าง รวมถึงการห้ามขายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ และการติดขัดการควบคุมเป็นโซนนิ่ง ซึ่งกฎบางกฎก็ออกมาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 หรือตั้งแต่ปี 2515 ก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาเรื่องนี้ แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย รวมถึงการป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าถึงแอลกอฮอล์ได้อย่างง่ายดายด้วย เพราะรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ถ้าเราปลดล็อกเพิ่มรายได้ผู้ประกอบการแล้ว เพิ่มของการท่องเที่ยวแล้ว แต่เยาวชนต้องถูกปกป้องเรื่องนี้อย่างไรบ้าง ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงแอลกอฮอล์เรื่องนี้ก็ให้ความสำคัญ และไม่ได้ละเลย
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ตอนนี้ที่ห้ามไว้คือเรื่องของเวลาคือช่วง 14.00-17.00 น. ส่วนวันสำคัญทางพุทธศาสนาจะให้ทีมลงไปศึกษาดูก่อน ว่าจะอย่างไรได้บ้าง เพราะอย่างวันพระใหญ่หรือวันที่ยังห้ามอยู่นั้น ชาวต่างชาติที่เข้ามาเขาไม่ทราบก่อน ก็จะมีผลเรื่องการท่องเที่ยวเพราะตรีมปีนี้คือเน้นเรื่องการท่องเที่ยว เรื่องนี้ต้องถูกพิจารณาอีกครั้ง
กรณีแบบนี้คนจะไม่เมากันทั้งประเทศเลยหรือ ซึ่งจังหวะนี้ทำให้บรรดารัฐมนตรีที่ยืนอยู่ด้วยหัวเราะขึ้น โดยนายกรัฐมนตรี ตอบกลับว่า “โอ้ว” และถามติดตลกว่า “จริงๆ ปกติทุกท่านดื่มกันทุกวันเลยหรือ ดื่มหนักนะคะ” พร้อมกับหัวเราะ ก่อนกล่าวต่อว่า จริงๆ แล้วก็ก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้มีกฎเรื่องนี้ ตอนที่ห้ามขายเวลาดังกล่าวมาช่วงไม่เท่าไหร่นี้ ซึ่งตนก็ได้บอกกับคณะรัฐมนตรีว่าต้องเน้นย้ำเรื่องของการเข้าถึงมากกว่า คนที่เป็นผู้ใหญ่ที่บรรลุนิติภาวะก็เรื่องหนึ่ง แต่เด็กนั้นมากกว่าที่เราต้องโฟกัส ไม่ใช่ว่าพอปลดล็อกทุกคนจะมีสิทธิซื้อขายมันไม่ใช่ นี่คือเรื่องต้องเน้นย้ำมาตรการให้ถูกจุด
#ยกเลิกห้ามขายเหล้า