นายกฯอินเดีย เยือนสหรัฐฯ ในช่วงประกาศตั้งกำแพงภาษี ปธน.ทรัมป์ ชี้อินเดียเรียกเก็บภาษีสูง

            การประกาศเก็บภาษีประเทศคู่ค้าในอัตราเดียวกัน ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เกิดขึ้นในช่วงที่นายนเรนทรา โมดี นายกฯอินเดีย เดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน ดีซี ของสหรัฐฯ มีกำหนดพบหารือที่ทำเนียบขาว วันพฤหัสฯ(13 ก.พ.68) ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ช่วงเช้าวันนี้ (14 ก.พ.68) ตามเวลาในประเทศไทย และเป็นการพบกันครั้งแรกหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ รับตำแหน่งสมัยที่ 2

           หลังจากลงนามในคำสั่ง ประธานาธิบดีทรัมป์ ระบุถึงอินเดียโดยเฉพาะว่าอินเดียเรียกเก็บภาษีศุลกากรมากกว่าประเทศอื่นๆ เอกสารข้อเท็จจริงระบุว่า อินเดียเรียกเก็บภาษีศุลกากร 100% สำหรับรถจักรยานยนต์ของสหรัฐฯ ขณะที่ สหรัฐฯเรียกเก็บภาษีศุลกากรสำหรับรถจักรยานยนต์ของอินเดียเพียง 2.4% เท่านั้น

           เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ จะหารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการค้าและการป้องกันประเทศกับนายกฯโมดี การเจรจาระดับสูงดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความร่วมมือทางเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างทั้งสองประเทศ

           เจ้าหน้าที่รัฐบาลอินเดีย ระบุว่า นายโมดี ได้เตรียมเรื่องที่จะหารือ เช่น เพิ่มการซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว และเครื่องยนต์ไอพ่น การเจรจาการค้า ข้อตกลงที่เป็นไปได้เกี่ยวกับการส่งออกสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ ไปอินเดีย และการลงทุนด้านพลังงานนิวเคลียร์ รวมถึงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์การแพทย์และศัลยกรรม และสารเคมี เป็นต้น

           ประธานาธิบดีทรัมป์ ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากอินเดียในเรื่องผู้อพยพจากอินเดียเข้าสหรัฐฯ แบบผิดกฎหมาย

           นายโมดี เป็นผู้นำต่างชาติคนที่ 4 ที่เดินทางมาหารือกับประธานาธิบดีทรัมป์ ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ต้อนรับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูแห่งอิสราเอล กษัตริย์อับดุลลาห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน และนายกรัฐมนตรีอิชิบะ ชิเกรุแห่งญี่ปุ่น

           ก่อนหน้านี้ นายโมดีได้พบกับนายไมค์ วอลทซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีทรัมป์  อีลอน มัสก์ และนายวิเวก รามาสวามี

          เมื่อต้นสัปดาห์นี้ นายโมดีได้พบกับรองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ และครอบครัวของเขาในกรุงปารีส ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุมสุดยอดปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์

#นายกอินเดียเยือนสหรัฐ

#กำแพงภาษี

แฟ้มภาพ