ทรัมป์กล่าวโทษยูเครนเป็นต้นเหตุของสงครามที่ยืดเยื้อ เซเลนสกีตอบโต้ไม่เป็นความจริง

          ในภายหลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐ และรัสเซียพบหารือกันครั้งแรกที่กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย เกี่ยวกับแนวทางการสร้างสันติภาพยูเครน แต่ไม่มีผู้แทนของฝ่ายยูเครนเข้าร่วมการเจรจาด้วย แล้วประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ท้วงว่าควรมีผู้แทนจากยูเครนเข้าร่วมการประชุมด้วย ทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ มีความไม่พอใจกล่าววิพากษ์วิจารณ์ผู้นำยูเครนหลายครั้ง รวมถึงในการแถลงข่าวที่บ้านพักตากอากาศในเมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ซึ่งเขาเปิดเผยว่า มีกำหนดพบหารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียก่อนสิ้นเดือนนี้ และที่จัดการหารือที่ริยาดก็เพราะคิดว่าเขามีอำนาจที่จะยุติสงครามนี้ได้ ส่วนการที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีพูดว่าไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมนั่นก็เพราะประธานาธิบดีเซเลนสกีมีโอกาสนั้นมาถึง 3 ปีแล้ว แต่กลับไม่ยอมรับข้อตกลงเพื่อยุติสงครามที่ยูเครนเป็นฝ่ายเริ่มต้นในปี 2564 นอกจากนี้เขายังสนับสนุนข้อเรียกร้องของรัสเซีย ที่ต้องการให้ยูเครนเลือกตั้งใหม่ ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ ตอบโดยอ้างข้อมูลที่ไม่มีหลักฐานสนับสนุนว่า ประธานาธิบดีเซเลนสกีมีคะแนนความนิยมเพียงร้อยละ 4 เท่านั้น

          ความคิดเห็นของประธานาธิบดีทรัมป์ รวมถึงการประชุมที่กรุงริยาด ทำให้ยูเครนและพันธมิตรในยุโรปมีความไม่มั่นคง

          ประธานาธิบดีเซเลนสกี กล่าวแถลงข่าวผ่านทางโทรทัศน์ยูเครนว่า ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังหลงเชื่อข้อมูลเท็จที่รัสเซียสร้างขึ้น และยืนยันว่า ยูเครนควรมีส่วนร่วมในการเจรจาสันติภาพ

          นายฌอน ซาเวตต์ ซึ่งเคยเป็นโฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติทำเนียบขาวในสมัยประธานาธิบดีโจ ไบเดน โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียว่า ประธานาธิบดีทรัมป์เชื่อในโฆษณาชวนเชื่อของฝ่ายรัสเซีย

....

#สหรัฐอเมริกา

#ยูเครน