ไทยส่งออกตลาดคู่ค้า FTA สูงถึง 3.6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สนับสนุนใช้ประโยชน์ต่อเนื่อง

21 กุมภาพันธ์ 2568, 17:40น.


          นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศติดตามสถานการณ์การค้าของไทยในปี 2567 พบว่า การส่งออกขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะประเทศที่ไทยมีความตกลงการค้าเสรี (FTA) ซึ่งมีมูลค่ารวม 360,340 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 5 จากปี 2566 และการส่งออกไปกลุ่มประเทศคู่ FTA มีมูลค่า 172,046 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 3 สำหรับตลาดคู่ FTA ที่ขยายตัวได้ดี อาทิ เปรู ขยายตัวร้อยละ 33 อินเดีย ขยายตัวร้อยละ 16 นิวซีแลนด์ ขยายตัวร้อยละ 13 จีน ขยายตัวร้อยละ 3 ชิลี ขยายตัวร้อยละ 3 และอาเซียนร้อยละ 5 โดยรายประเทศอาเซียน อาทิ กัมพูชา ขยายตัวร้อยละ 43 สปป.ลาว ขยายตัวร้อยละ 6 เวียดนาม ขยายตัวร้อยละ 5 มาเลเซีย ขยายตัวร้อยละ 3 และสิงคโปร์ ขยายตัวร้อยละ 1 คาดว่าในปี 2568 การส่งออกของไทยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากทิศทางการค้าโลกที่ปรับตัวดีขึ้น ราคาสินค้าเกษตรและอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้น และความต้องการสำรองสินค้าเพื่อความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งเป็นโอกาสการส่งออกสินค้าของไทย จึงขอให้ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จาก FTA ให้เต็มที่ โดยปัจจุบันไทยมี FTA ที่มีผลใช้บังคับแล้ว 14 ฉบับ กับ 18 ประเทศ และมี FTA ไทย-ศรีลังกา เป็น FTA ฉบับที่ 15 คาดว่าจะผลบังคับใช้ภายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 ไทยได้ลงนาม FTA กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) ซึ่งเป็น FTA ฉบับแรกของไทยกับประเทศในยุโรปอีก



          นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เพิ่มเติมว่า จากการติดตามสถานการณ์การค้าของไทยในปี 2567 เมื่อพิจารณาในรายสินค้า กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมส่งออกไปประเทศคู่ FTA เติบโตสูง มีมูลค่า 127,603 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 4 คิดเป็นสัดส่วนการส่งออกไปตลาด FTA ร้อยละ 54 ของการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมของไทย สินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ อัญมณีและเครื่องประดับ ขยายตัวร้อยละ 48 ผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียม ขยายตัวร้อยละ 23 เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล ขยายตัว ร้อยละ 14 เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 13 ทองแดงและของทำด้วยทองแดง ขยายตัวร้อยละ 12 และเคมีภัณฑ์ ขยายตัวร้อยละ 8



          สำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าเกษตรแปรรูปไปประเทศคู่ FTA แม้ในภาพรวมจะชะลอตัวเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า โดยการส่งออกสินค้าเกษตรไปประเทศคู่ FTA หดตัวร้อยละ 0.5 สินค้าเกษตรแปรรูป หดตัวร้อยละ 1 เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลให้เกิดภัยแล้งจนกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรของไทย และเศรษฐกิจในประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัว แต่เมื่อพิจารณาในรายสินค้า พบว่า มีสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปสำคัญหลายรายการที่ยังคงส่งออกได้ดี อาทิ กาแฟ ขยายตัวร้อยละ 105 เครื่องเทศและสมุนไพร ขยายตัวร้อยละ 49 ยางพารา ขยายตัวร้อยละ 30 ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ขยายตัว ร้อยละ 22 โกโก้และของปรุงแต่ง ขยายตัวร้อยละ 17 ซุปและอาหารปรุงแต่ง ขยายตัว ร้อยละ 14 ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูป ขยายตัว ร้อยละ 10 และปลา ขยายตัวร้อยละ 8



          นอกจากนี้ ไทยยังคงครองตำแหน่งเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรอันดับที่ 1 ของอาเซียน และเป็นอันดับที่ 8 ของโลก และผู้ส่งออกสินค้าเกษตรแปรรูปอันดับที่ 3 ของอาเซียน รองจากอินโดนีเซีย และมาเลเซีย และเป็นอันดับที่ 9 ของโลก



          ในปี 2568 กรมมีแผนที่จะเร่งเดินหน้าเจรจา FTA กับคู่ค้าสำคัญ ได้แก่ สหภาพยุโรป แคนาดา เกาหลีใต้ และภูฏาน พร้อมทั้งมีเป้าหมายเปิดเจรจากับคู่ค้าใหม่ ได้แก่ บังกลาเทศ สหราชอาณาจักร สหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (EAEU) กลุ่มพันธมิตรแปซิฟิก หรือ Pacific Alliance และตลาดร่วมอเมริกาใต้ตอนล่าง หรือ MERCOSUR



...



#การส่งออก



#เศรษฐกิจไทย

ข่าวทั้งหมด

X