ผู้นำฝรั่งเศส-สหราชราชอาณาจักรเยือนสหรัฐฯ หวังโน้มน้าวทรัมป์มาหนุนหลังยูเครน

วันนี้, 17:19น.


          ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสและรัฐบาลสหราชอาณาจักรเปิดเผยว่า สัปดาห์นี้จะเป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญมากสำหรับอนาคตของยูเครนและชาติตะวันตก เนื่องจาก 2 มหาอำนาจนิวเคลียร์ชาวยุโรปคือ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงจากฝรั่งเศสและนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์จากสหราชอาณาจักรจะเยือนกรุงวอชิงตันดี.ซี.ในวันนี้ (24 ก.พ.)และวันพฤหัสบดีนี้(27 ก.พ.) ตามลำดับ เพื่อโน้มน้าวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯให้หันมาช่วยรับประกันด้านความมั่นคงให้กับยุโรปและยูเครน



          ปัจจุบัน รัฐบาลสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสอยู่ระหว่าง ทำแผนส่งกำลังทหารราว 30,000 คนเข้าไปยังยูเครน เพื่อช่วยรับประกันความมั่นคงระยะยาวสำหรับยูเครนและยุโรปหากยูเครนและรัสเซียบรรลุข้อตกลงสันติภาพได้ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เห็นว่า แนวคิดนี้อาจจะส่งผลให้การเจรจาสันติภาพยูเครนล้มเหลว  เพราะรัสเซียคัดค้านการส่งทหารจากยุโรป หรือจากองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต)เข้ามารักษาสันติภาพในยูเครน 



           ทั้งนี้ การเยือนสหรัฐฯของนายมาครงในวันนี้ (24 ก.พ.) ตรงกับวันครบรอบ 3 ปี รัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.2565 ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นราย  ทำให้ประธานาธิบดีและผู้นำกองทัพรัสเซีย ถูกศาลอาญาระหว่างประเทศ(ICC)ออกหมายจับในข้อหาอาชญากรรมสงครามในยูเครน โดยเจ้าหน้าที่ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส เปิดเผยว่า นายมาครง มีจุดยืนตรงกับนายทรัมป์คือ การหาทางยุติสงครามในยูเครน พร้อมทั้งโน้มน้าวรัฐบาลทรัมป์ให้ช่วยสนับสนุนยูเครน รวมถึงการเสริมสร้างความมั่นคงให้กับยุโรป โดยขอให้รัฐบาลสหรัฐฯเปิดโอกาสให้ยูเครนมีส่วนร่วมในกระบวนการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย เพื่อช่วยปกป้องผลประโยชน์ของชาวยูเครน



#ผู้นำยุโรปเยือนสหรัฐ



#รัสเซียยูเครน



#เจรจาสันติภาพ

ข่าวทั้งหมด

X