นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ แห่งสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า การเข้าสู่ยุคใหม่ที่อันตราย ทำให้รัฐบาลตัดสินใจเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหม และลดงบประมาณช่วยเหลือต่างประเทศ เขากล่าวว่า การรุกรานของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย จะไม่ได้หยุดอยู่แค่ในยูเครน เนื่องจากเรือสอดแนมของรัสเซียกำลังคุกคามน่านน้ำ เครื่องบินของรัสเซียรุกล้ำน่านฟ้าและมีการโจมตีทางไซเบอร์ต่อระบบสาธารณสุขของสหราชอาณาจักร และเขาเห็นด้วยกับสหภาพยุโรป ที่ว่าทุกฝ่ายจะต้องเพิ่มการป้องกันตัวเอง
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีสตาร์เมอร์ กล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภาว่าจะเพิ่มการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศ จากระดับร้อยละ 2.3 ของ GDP ในปัจจุบันเป็นร้อยละ 2.5 ของ GDP ภายในปี 2570 โดยอาจสูงถึงปีละ 13,400 ล้านปอนด์
แต่ในเวลาเดียวกันการใช้จ่ายด้านความช่วยเหลือต่างประเทศ จะลดลงจากร้อยละ 0.5 ของ GDP เป็นร้อยละ 0.3 โดยจะยังคงสนับสนุนกาซา ซูดาน และยูเครนต่อไป
โดยในวันพฤหัสบดีนี้ (27 ก.พ.68) เขามีกำหนดพบกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ทำเนียบขาว ซึ่งนายกรัฐมนตรีสตาร์เมอร์ ย้ำว่า สหราชอาณาจักรไม่ควรถูกบังคับให้เลือกระหว่างยุโรป กับ สหรัฐฯ เพราะสหราชอาณาจักรเป็นพันธมิตรสำคัญของทั้ง 2 ประเทศมาโดยตลอด และควรจะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป โดยย้ำว่า ในการพบกับผู้นำสหรัฐฯ เขาต้องการสร้างความมั่นใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
....
#งบประมาณสหราชอาณาจักร