สส.สหรัฐฯ ลงมติผ่านแผนงบฯ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มเพดานหนี้สาธารณะในช่วง2ปี

          สถานีโทรทัศน์ CNBC ของสหรัฐฯรายงานว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งมีพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ลงมติเมื่อคืนนี้ (25 ก.พ.68)ตามเวลาท้องถิ่น หรือเช้าวันนี้(26 ก.พ.68)ตามเวลาประเทศไทย ด้วยเสียงส่วนใหญ่ 217 ต่อ 215 เสียง รับรองร่างกฎหมายของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในเรื่องแผนงบประมาณ การปฏิรูปภาษีและความมั่นคงชายแดน ทำให้รัฐบาลเดินหน้าบริหารประเทศตามนโยบายสำคัญๆในปีนี้ ตามที่นายทรัมป์หาเสียงไว้กับประชาชน น่าสังเกตว่า มีสส.1 คนจากพรรครีพับลิกันโหวตสวนมติพรรค จากจำนวน สส.พรรครีพับลิกันทั้งหมด 218 คน ส่วนพรรคเดโมแครต คัดค้านเรื่องนี้มาตั้งแต่แรก โหวตคัดค้าน

          สำหรับแผนปฏิรูปภาษีฉบับนี้ มีสาระสำคัญ เช่น การขยายมาตรการพักชำระภาษีที่ใช้มาตั้งแต่ยุคที่นายทรัมป์บริหารประเทศสมัยแรก ซึ่งจะหมดอายุปลายปีนี้ พร้อมทั้งจัดทำแผนงบประมาณใหม่มูลค่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อให้รัฐบาลมีงบประมาณเพียงพอสำหรับใช้จ่ายในการดำเนินนโยบายต่างๆ เช่น การเนรเทศผู้ลักลอบเข้าเมืองกลับประเทศ การคุมเข้มเรื่องการรักษาความมั่นคงชายแดน ปรับลดกฏระเบียบด้านพลังงานและการใช้จ่ายด้านกลาโหม ตลอดถึงการเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐฯอีก 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯในช่วง 2 ปีข้างหน้า และเพิ่มตัวเลขขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯอีกเกือบ 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯในช่วง 10 ปีข้างหน้า

          สำหรับจุดพลิกผันของการลงมติเมื่อคืนนี้มีขึ้น หลังนายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และนายสตีฟ สกาลิส สส.ระดับสูงของพรรครีพับลิกัน ใช้เวลาหลายชั่วโมง โน้มน้าวให้ที่ประชุม โดยเฉพาะ สส.พรรครีพับลิกัน 2-3 คนที่ยังรู้สึกลังเลใจ ให้ร่วมโหวตสนับสนุนร่างกฎหมายนี้ ขณะเดียวกัน นายทรัมป์ ได้ต่อสายโทรศัพท์พูดคุยกับ สส.ที่ยังรู้สึกลังเลใจให้ตระหนักถึงความจำเป็นในการผลักดันแผนงบประมาณดังกล่าว

#สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ

#ลงมติรับรองแผนปฏิรูปภาษีทรัมป์