ครม.เห็นชอบ ทบทวนบริหารจัดการนมโรงเรียน หลังผลผลิตน้อยลง

          หลังพบปัญหานมโรงเรียน ที่ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติทบทวนมติ ครม. เมื่อวันที่ 26 มี.ค.62 เรื่องการทบทวนการบริหารจัดการนมโรงเรียน โดยเสนอให้มีการพัฒนาโครงการอาหารเสริมโรงเรียนให้ได้วัตถุประสงค์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยมีการกำหนดใน 4 หัวข้อ คือ 1.ต้องการให้นักเรียนทั้งประเทศได้ดื่มนมที่มีคุณภาพ 2.ต้องการให้เกษตรผู้เลี้ยงโคนมสามารถผลิต และขายน้ำนมโคที่มีคุณภาพได้ และมีความยั่งยืนในอาชีพ 3.ต้องการสร้างศักยภาพความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์โคนมรัฐวิสาหกิจ และสถาบันการศึกษาในการดำเนินการผลิตน้ำนมเป็นลำดับแรก และ 4.ต้องการให้ผู้ประกอบการผลิตผลิตภัณฑ์นมได้รับการจัดสรรสิทธิ และพื้นที่ในการจำหน่ายอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม

          ก่อนหน้า โครงการนมโรงเรียน เผชิญปัญหาในหลายประเด็น เช่น ปริมาณน้ำนมดิบที่ต้องการใช้ ในการผลิตน้ำนมโรงเรียนในแต่ละกลุ่มพื้นที่ไม่สอดคล้องกับจำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการนมโรงเรียน รวมถึงการกระจายของโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมไม่สัมพันธ์กับหลักโลจิสติกส์ส่งผลให้ต้นทุนผลิตสูงขึ้น และมีการนำน้ำนมจากนอกกลุ่มพื้นที่เข้ามาผลิต และจำหน่ายในกลุ่มพื้นที่ ซึ่งเป็นการเพิ่มต้นทุนการขนส่งให้กับผู้ประกอบการบางรายที่ไม่มีศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบเป็นของตัวเอง และทำให้ไม่สามารถควบคุมการผลิต และส่งเสริมเกษตรกรที่เป็นสมาชิกส่งนมได้ อีกทั้งแนวโน้มของเด็กนักเรียนของไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลโดยตรงต่อจำนวนที่จะนำมาจัดสรรสิทธิของภาคสหกรณ์โคนม

          ปัจจุบันมีเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมลดลงจาก 15,724 ราย ในปี 2566 เป็นจำนวน 14,997 ราย ในปี 2567 ส่งผลให้ปริมาณน้ำนมโคของทั้งประเทศลดลงจาก 1.026 ล้านตันต่อปี ในปี 2566 เหลือ 1.011 ล้านตันต่อปี ในปี 2567 รวมทั้งแม่โครีดนมยังมีแนวโน้มลดจำนวนลงอย่างต่อเนื่องจาก 244,292 ตัว ในปี 2566 เป็น 233,501 ตัวในปี 2567 และยังเจอปัญหา ผลกระทบความตกลงการค้าเสรีไทย – ออสเตรเลีย และความตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นไทย – นิวซีแลนด์ ตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 ไทยต้องยกเลิกโควตาภาษีของนมผงขาดมันเนย และนมและครีม ให้เป็นร้อยละ 0 ข้อตกลงดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตของอุตสาหกรรมนมของไทย เนื่องจากทำให้ต้นทุนการผลิตอุตสาหกรรมนมสูงขึ้น

          รวมทั้งแนวโน้มจำนวนเด็กนักเรียนของไทยลดลงอย่างต่อเนื่องจากนักเรียนในโครงการนมโรงเรียนฯ ปี 2563 จำนวน 7,036,845 คน แต่ในปี 2567 กลับลดเหลือจำนวน 6,525,110 คน ส่งผลโดยตรงต่อจำนวนนักเรียนนำมาจัดสรรสิทธิโดยเฉพาะภาคสหกรณ์โคนม รัฐวิสาหกิจ และสถานศึกษา (ตั้งแต่เริ่มโครงการนมโรงเรียนฯ ในปี 2562 มีแนวโน้มการได้รับสิทธิจำหน่ายนมโรงเรียนลดลงตามลำดับ)

#นมโรงเรียน