สำนักวาติกัน แถลงอาการของสมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิส ซึ่งทรงป่วยด้วยโรคปอดบวมที่รักษาตัวในโรงพยาบาล เจเมลลี ในกรุงโรม อิตาลี เมื่อวันจันทร์(3 มี.ค.68) ว่าทรงประสบภาวะหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน 2 ครั้งและจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจชนิดแบบไม่รุกล้ำ คือการใช้เครื่องช่วยหายใจโดยไม่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจเข้าไปในหลอดลมของผู้ป่วย แต่ใช้หน้ากากครอบบริเวณจมูก ปาก หรือทั้งใบหน้าแทน
รายงานทางการแพทย์อย่างละเอียดระบุถึงสาเหตุว่าเกิดจากเมือกหลอดลมสะสมเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ โป๊ปฟรานซิสทรงประสบปัญหาหลอดลมหดเกร็ง ซึ่งคล้ายกับอาการหอบหืด แพทย์จำเป็นต้องส่องกล้องตรวจหลอดลม 2 ครั้ง หรือต้องตรวจดูทางเดินหายใจของพระองค์ คำแถลง ระบุว่า การพยากรณ์ของพระองค์ยังคงเฝ้าระวัง ซึ่งหมายความว่าโป๊ปฟรานซิสยังไม่พ้นจากอันตราย
เจ้าหน้าที่สำนักวาติกัน ซึ่งไม่ต้องการเปิดเผยชื่อ เนื่องจากไม่มีอำนาจในการพูดคุยเกี่ยวกับสุขภาพของพระองค์ กล่าวว่า ผลการตรวจเลือดของโป๊ปฟรานซิสเมื่อวันจันทร์ยังคงมีเสถียรภาพ
ก่อนหน้านี้ สำนักวาติกัน เปิดเผยว่า เมื่อวันอาทิตย์(2 มี.ค.68) พระอาการประชวรของพระองค์คงที่ ไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจแล้ว แต่พระองค์ยังต้องรับออกซิเจนผ่านทางท่อเล็กๆ ใต้จมูกของพระองค์
#โป๊ปฟรานซิส
แฟ้มภาพ