กลุ่มโอเปกพลัส ซึ่งรวมถึงรัสเซีย ประกาศเมื่อวันจันทร์(3 มี.ค.68) ว่า กลุ่มได้ตัดสินใจที่จะเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจ 2.2 ล้านบาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนเม.ย. 68 ตามแผนที่วางไว้ โดยระบุว่าปัจจัยพื้นฐานและแนวโน้มของตลาดน้ำมันยังคงแข็งแกร่ง
ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบมาตรการภาษีศุลกากร หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันว่า สหรัฐฯ จะดำเนินการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% ตั้งแต่วันนี้(4 มี.ค.68) ตามกำหนด และจะเริ่มใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับทุกประเทศที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.68 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.3 ในเดือนก.พ. 68 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 50.6 จากระดับ 50.9 ในเดือนม.ค.68 โดยดัชนีภาคการผลิตได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าของสหรัฐฯ
-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเม.ย.68 ลดลง 1.39 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 68.37 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
-เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเม.ย.68 ลดลง 1.19 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 71.62 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
#น้ำมันดิบตลาดโลก
#โอเปกพลัสเพิ่มการผลิต
แฟ้มภาพ