หลังรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศมาตรการปรับเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตราร้อยละ 25 และปรับเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนร้อยละ 20 จะมีผลบังคับหลังเที่ยงคืนวันนี้ (4 มี.ค.) บีบีซีรายงานว่า กระทรวงการคลังของจีนได้ประกาศตอบโต้สหรัฐฯด้วยการปรับเพิ่มภาษีในอัตราร้อยละ 15 สำหรับการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ เช่น ไก่ ข้าวสาลี ข้าวโพดและฝ้าย และให้ปรับเพิ่มภาษีในอัตราร้อยละ 10 สำหรับการนำเข้าสินค้าเกษตรประเภทถั่วเหลือง เนื้อหมู เนื้อวัว ผลไม้และผลิตภัณฑ์นม เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค.นี้
ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์จีนได้เพิ่ม 10 บริษัทสหรัฐฯในบัญชีรายชื่อของ องค์กรที่ไม่น่าเชื่อถือทางธุรกิจและเพิ่มเติมอีก 15 บริษัทสหรัฐฯที่ห้ามบริษัทจีนส่งออกสินค้าให้ พร้อมประกาศมาตรการคว่ำบาตรบริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพ เช่น บริษัทอิลลูมิเนีย (Illuminia) และบริษัทอื่นๆที่เกี่ยวกับธุรกิจการบิน,วิศวกรรมทางทะเลและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI)ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะบริษัทอิลลูมิเนียที่ทางการจีนกล่าวหาว่าใช้วิธีเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมในการทำธุรกิจกับบริษัทจีน โดยจีนห้ามนำเข้าเครื่องคัดแยกยีน มีผลตั้งแต่วันนี้ 4 มี.ค.นี้ แต่ยังเรียกร้องให้ สหรัฐฯกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาพิพาททางการค้าระหว่างกัน
สำหรับมาตรการตอบโต้ของจีน มีขึ้นในขณะที่องค์กรที่ปรึกษาทางการเมืองระดับสูงของจีนเปิดการประชุมในวันนี้ (4 มี.ค.) หนึ่งวันก่อนสภาประชาชนจีนประชุมในวันพรุ่งนี้(5 มี.ค.) ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า วาระการประชุมในลำดับแรกๆเช่น เรื่องภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจากการบริโภคที่อ่อนแอ วิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์ การว่างงานและเรื่องมาตรการทางภาษีจากสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะกระทบการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน
นักวิเคราะห์คาดว่า รัฐบาลจีนจะแถลงเรื่องการตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้(2568)ที่ร้อยละ 5 แต่การจะบรรลุเป้าหมายนี้ รัฐบาลจีนจะต้องให้คำมั่นเรื่องการเพิ่มงบค่าใช้จ่ายของภาครัฐและโครงการลงทุนขนาดใหญ่ในด้านพลังงานทดแทนและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI) เพื่อให้ประเทศจีนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำโลกในอุตสาหกรรมต่างๆเหล่านี้ และลดการพึ่งพาด้านเทคโนโลยีจากสหรัฐฯในอนาคต
#จีนตอบโต้สหรัฐ