ผู้ค้าปลีกและเกษตรกรชาวอเมริกัน แสดงความกังวลแล้วว่าการเพิ่มภาษีจะส่งผลกระทบต่อพวกเขาและผู้บริโภคอย่างไร หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีศุลกากรกับแคนาดา เม็กซิโก และ จีน โดยการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและธุรกิจต่างๆ ทันทีTarget และ Best Buy ซึ่งเป็น ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ 2 รายของสหรัฐฯเตือนว่า ราคาสินค้าจะเพิ่มขึ้นตามมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโก แคนาดา และจีน ซึ่งภาษีนำเข้าดังกล่าวจะรวมอยู่ในภาษีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน
ไบรอัน คอร์เนล (Brian Cornell) ซีอีโอของ Target กล่าวในบทสัมภาษณ์กับ CNBC ว่า จีนและเม็กซิโกเป็นแหล่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของ Best Buy การปรับขึ้นภาษีอาจทำให้สัปดาห์นี้บริษัทต้องขึ้นราคาผักผลไม้ และจะส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัทในไตรมาสนี้ด้วย
ด้านบริษัท Best Buy คาดว่า มีแนวโน้มสูงที่จะมีการปรับราคาสินค้า
ซิปปี้ ดูวัลล์ ประธานสหพันธ์ฟาร์มอเมริกัน เตือนว่า การปรับขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้จากสามประเทศจะส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของสหรัฐฯ เช่น ข้าวโพด ถั่วเหลือง เนื้อวัว ผลิตภัณฑ์นม และสัตว์ปีก เมื่อปีที่แล้ว สหรัฐฯ ส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรมูลค่ากว่า 83,000 ล้านดอลลาร์ไปจีน แคนาดา และเม็กซิโก ตามข้อมูลของสำนักงานเกษตร ในปี 2018 ในช่วงการบริหารครั้งแรกของประธานาธิบดีทรัมป์ กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ ต้องจัดทำโครงการชดเชยให้กับเกษตรกร เนื่องจาก จีนใช้มาตรการภาษีตอบโต้
#มาตรการภาษี
#กระทบผู้ค้าปลีก