นายไมค์ วอลทซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ยืนยันว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์มีคำสั่งระงับการแบ่งปันข่าวกรองกับยูเครนเป็นการชั่วคราว ต่อเนื่องจากการหยุดส่งมอบความช่วยเหลือทางทหาร และกำลังอยู่ในระหว่างการทบทวนความเกี่ยวข้องทั้งหมดของงานข่าวกรองกับยูเครน
นายจอห์น แรทคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการซีไอเอ ชี้แจงว่า การหยุดช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน เป็นมาตรการชั่วคราว จนกว่าประธานาธิบดีทรัมป์ จะมั่นใจว่า ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนต้องการเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพ
แต่นักวิเคราะห์เตือนว่า การหยุดสนับสนุนด้านข่าวกรองอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อการสู้รบในแนวหน้า และทำให้คาดว่า ข้อมูลข่าวกรองเหล่านั้น จะเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวในเชิงยุทธศาสตร์และเชิงยุทธวิธีของกองทัพรัสเซีย
ความเคลื่อนไหวยังเกิดขึ้นหลังจากการโต้แย้งต่อหน้าสื่อที่ทำเนียบขาว ระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์กับประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ซึ่งตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ประธานาธิบดีของยูเครนได้พยายามอย่างยิ่งที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ
สหรัฐฯ เคยระงับความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน ในปี 2566 ช่วงรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งทำให้ยูเครนต้องขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากยุโรป
และนับตั้งแต่รัสเซียบุกรุกยูเครนเมื่อสามปีที่แล้ว สภาคองเกรสอนุมัติงบประมาณช่วยเหลือยูเครนไปแล้วมากกว่า 180,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กับยังมีความช่วยเหลือด้านงบประมาณที่ส่วนใหญ่ส่งมอบผ่านกองทุนทรัสต์ของธนาคารโลก และผ่านองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) ซึ่งถูกรัฐบาลทรัมป์ตัดงบประมาณไปจำนวนมาก
...
#ข่าวกรองทางทหาร
#สหรัฐอเมริกา
#ยูเครน