ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ โพสต์ข้อความทางสื่อออนไลน์ ทรูธ โซเชียล หลังจากที่พบ 8 ตัวประกันที่ได้รับการปล่อยตัวจากเขตฉนวนกาซา ที่ทำเนียบขาว กรุงวอชิงตันดี.ซี.สหรัฐฯ เมื่อวานนี้(5 มี.ค.68)ยื่นคำขาดครั้งสุดท้ายถึงกลุ่มฮามาส ขอให้ปล่อยตัวประกันทั้งหมดทันที ไม่ว่าจะเป็นตัวประกันที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือเสียชีวิตแล้วก็ตาม พร้อมขู่ว่า ถ้ากลุ่มฮามาสไม่ทำตามข้อเสนอดังกล่าว สหรัฐฯจะส่งมอบอาวุธทุกอย่างที่จำเป็นให้กับอิสราเอล เพื่อให้เดินหน้าปราบปรามกลุ่มฮามาสไปจนกว่าอิสราเอลจะทำงานนี้สำเร็จ และจะไม่มีสมาชิกฮามาสคนใดสามารถจะดำเนินชีวิตในเขตฉนวนกาซาอย่างปลอดภัยอีกต่อไป
นายทรัมป์ แสดงความเห็นเรื่องนี้ไม่กี่ชั่วโมง หลังจาก น.ส.คาโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว ยืนยันกระแสข่าวที่ว่า สหรัฐฯเริ่มเปิดเจรจาโดยตรงกับกลุ่มฮามาสในเรื่องการหยุดยิงและการปล่อยตัวประกัน นับว่าสวนทางกับธรรมเนียมปฏิบัติแต่ดั้งเดิมซึ่งสหรัฐฯยึดถือมาตลอดคือ การไม่เจรจากับองค์กรที่สหรัฐฯขึ้นบัญชีดำเป็นองค์กรก่อการร้าย ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯประกาศให้กลุ่มฮามาสเป็นองค์กรก่อการร้ายในปี 2540 ยกเว้นในยุครัฐบาลอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามาและยุครัฐบาลทรัมป์ในสมัยแรกที่เปิดเจรจากับกลุ่มตอลิบาน ซึ่งถูกสหรัฐฯขึ้นบัญชีดำเป็นองค์กรก่อการร้าย หลังเหตุวินาศกรรมสหรัฐฯ 11 ก.ย.2544
ส่วนท่าทีจากกลุ่มฮามาส นายฮาเซ็ม กัสเซ็ม โฆษกกลุ่มฮามาส วิจารณ์ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลทรัมป์ว่า อาจจะกระทบข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกันฉบับเดิมที่กลุ่มฮามาสลงนามไว้กับอิสราเอลเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 68 ย้ำว่า กลุ่มฮามาสทำตามเงื่อนไขครบถ้วนตามข้อตกลงหยุดยิงในเฟสแรกตลอด 6 สัปดาห์ เริ่มจากวันที่ 19 ม.ค.68 จนถึงวันที่ 1 มี.ค.68 กล่าวหาอิสราเอลหลบเลี่ยงการเจรจาหยุดยิงในเฟสที่ 2 และอยากให้สหรัฐฯกดดันอิสราเอลให้กลับมาเริ่มต้นการเจรจาเฟสที่ 2 กับกลุ่มฮามาสโดยเร็ว
#รัฐบาลทรัมป์
#เปิดเจรจากับฮามาส
#ปล่อยตัวประกัน