เปิดมติ กคพ. 11 ต่อ 4 รับคดีฮั้วเลือกตั้งสว. เป็นคดีพิเศษ ในความผิดฐานฟอกเงิน

วันนี้, 15:07น.


          นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) พร้อมพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะรองประธานคณะกรรมการฯ ร่วมกันแถลงข่าว หลังการประชุมพิจารณารับคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษในความผิดฐานฟอกเงิน



          การประชุมในวันนี้ มีทั้งสิ้น 18 ราย จากทั้งหมด 22 ราย ผู้ที่ลงเสียงไม่เห็นด้วย 4 คน ประกอบด้วย 1.นายนพดล เกรีฤกษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา (ผู้แทนเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา) 2.นายจิรานุวัฒน์ ธัญญะเจริญ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกฎหมาย (ผู้แทนผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย)



3.นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง (ผู้แทนปลัดกระทรวงมหาดไทย) และ 4.พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการปราบปรามผู้มีอิทธิพล เข้าร่วมประชุมเอง



          ส่วน 3 คน ที่งดออกเสียง ประกอบด้วย 1.นายณรงค์ งามสมมิตร ที่ปรึกษากฎหมาย (ผู้แทนปลัดกระทรวงพาณิชย์) 2.นางเยาวลักษณ์ นนทแก้ว อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ (ผู้แทนอัยการสูงสุด) และ 3.นายอรรถพล อรรถวรเดช ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง (ผู้แทนปลัดกระทรวงการคลัง)



          อีก 11 คน คือ 1.นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี 2.พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม 3.นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม 4.พลเอก พิสิษฐ์ นพเมือง เจ้ากรมพระธรรมนูญ 5.นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ 6.พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดี 7.นางดวงตา ตันโช กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ 8.นายชาติพงษ์ จีระพันธุ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย 9.นายนรินทร์พงศ์ จินาภักดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย 10.นางทัชมัย ฤกษะสุต กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย และ 11.นายณปกรณ์ ธนสุวรรณเกษม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงินการธนาคาร



         ที่เหลืออีก 4 คน ไม่ได้เข้าร่วมประชุม นอกจากนั้น ในวันนี้ยังพบคนที่ออกจากการประชุม 1 คน นายเพ็ชร ชินบุตร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์ ให้เหตุผลว่าต้องไปภารกิจที่ต่างประเทศ



          ขณะที่พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่งผู้แทน เนื่องจากติดภารกิจ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และพล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสอบสวนคดีอาญา ไม่เข้าร่วมประชุม



           ด้านพ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า หลังจากมีการรับเป็นคดีพิเศษ จะเชิญพนักงานอัยการร่วมสอบสวนด้วยเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และอำนวยความยุติธรรม และจะตั้งคณะทำงานสอบสวนเพื่อนำไปสู่การสอบสวน ทั้งนี้ มีการประสานข้อมูลกับ กกต. อยู่แล้วเพราะที่ผ่านมาร่วมกันทำงานกันมาตลอด เพราะข้อหาฟอกเงินข้อผิดอาญาอื่นไม่จำเป็นต้องเชิญผู้แทน กกต.



          ส่วน ส.ว ที่ได้แสดงความเห็นว่า.ได้มาโดยชอบและไม่ได้ไปทำผิดตามข้อกล่าวหา ซึ่งกระบวนการได้มาซึ่ง ส.ว. มีการตรวจสอบอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้มีผู้มาร้องและกระทบต่อความมั่นคง ถ้าเราไปครอบงำก็จะส่งผลกระทบต่อฝ่านนิติบัญญัติ ทั้งนี้ดีเอสไอ ทำเฉพาะกรณีความผิดเกี่ยวกับฟอกเงิน และอาจขยายผลเกี่ยวกับคดีอาญาอื่น เช่น อั้งยี่ แต่ถ้าหากกลุ่มส.ว.อยากมาให้การแสดงความบริสุทธิ์ เราก็พร้อมที่จะรับฟัง คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเพื่อทำการสอบสวนและออกหมายเรียกพยาน รวมไปถึงการสืบเส้นทางการเงิน โดยเฉพาะในส่วนของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการใช้เงินหรือรับผลตอบแทนตัวเงิน รวมถึงการพิจารณารายการทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ซึ่งหากพบที่มาของทรัพย์สินดังกล่าวว่าเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินทางอาญาในคดีมูลฐาน เจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะทำการออกคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบชั่วคราว



#เลือกสว



#ฮั้วลงคะแนน



แฟ้มภาพ



 

ข่าวทั้งหมด

X