ปิดฉากนายกฯ 9 ปี 'ทรูโด' ส่งไม้ต่อให้ 'มาร์ค คาร์นีย์' นั่งนายกฯแคนาดา สู้ศึกสงครามการค้า

วันนี้, 05:59น.


          นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดา กล่าวสุนทรพจน์อำลาตำแหน่ง นายทรูโด หัวหน้าพรรคเสรีนิยม ประกาศลาออกเมื่อเดือนม.ค.68 หลังจากดำรงตำแหน่งมาเป็นเวลา 9 ปี เนื่องจาก คะแนนนิยมลดลงอย่างมาก จนทำให้พรรคเสรีนิยมซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ต้องเร่งหาผู้นำคนใหม่


          นายทรูโด วัย 53 ปี เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือน พ.ย.58 และยังได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งในอีก 2 สมัย ทำให้นายทรูโด กลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดคนหนึ่งของแคนาดา


          นายทรูโด กล่าวว่า แคนาดากำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากเพื่อนบ้าน โดยอ้างอิงถึงมาตรการขึ้นภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และภัยคุกคามที่จะทำให้แคนาดาเป็นรัฐที่ 51


          หลังจากที่นายทรูโด ลงจากตำแหน่ง พรรคจะประกาศชื่อผู้สืบทอดตำแหน่งทั้งหัวหน้าพรรคและหัวหน้ารัฐบาล ท่ามกลางสงครามการค้ากับสหรัฐฯซึ่งอาจส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของแคนาดาได้ นายกฯคนต่อไปจะต้องเจรจากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เนื่องจากเขาขู่ว่าจะเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อแคนาดาและอาจต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มฝ่ายค้านอนุรักษ์นิยมในการเลือกตั้งทั่วไปเร็วๆ นี้


          คนที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกฯ และ หัวหน้าพรรคเสรีนิยมของแคนาดา ต่อจากนายทรูโด คือ นายมาร์ค คาร์นีย์ อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดาและธนาคารกลางอังกฤษ ที่คว้าชัยชนะในการแข่งขันชิงตำแหน่งผู้นำพรรคเสรีนิยม นายคาร์นีย์ ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกพรรคมากที่สุด 131,674 คะแนน คิดเป็น 85.9% ของบัตรลงคะแนนทั้งหมด


         นายคาร์นีย์ กล่าวว่า ขอให้ทุกคนยืนหยัดเพื่อแคนาดา ใครพร้อมที่จะยืนหยัดเพื่อแคนาดาร่วมกับฉันบ้าง เขาถามคนในห้อง ซึ่งได้รับการต้อนรับด้วยเสียงเชียร์ พรรคเสรีนิยมเป็นหนึ่งเดียวและแข็งแกร่ง และพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อสร้างประเทศที่ดีขึ้น ชาวแคนาดาต้องการผู้นำเชิงบวกที่จะยุติความแตกแยก รัฐบาลใหม่ของเขาจะสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและรักษาความปลอดภัยชายแดนของแคนาดา ให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะเดินหน้าใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ต่อสินค้าสหรัฐฯ จนกว่าชาวอเมริกันจะแสดงความเคารพต่อแคนาดา พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะลงทุนครั้งสำคัญเพื่อเปลี่ยนเศรษฐกิจของแคนาดาให้เป็นเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม G7



          นายคาร์นีย์โจมตีแผนภาษีของรัฐบาลทรัมป์ ด้วยน้ำเสียงท้าทายและกล่าวถึงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่า เขาโจมตีครอบครัว คนงาน และธุรกิจของชาวแคนาดา และเราไม่สามารถปล่อยให้เขาประสบความสำเร็จได้ และเราจะไม่ทำอย่างนั้นด้วย 


         นายทรัมป์ กล่าวโทษแคนาดาซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเป็นผู้อพยพเข้าประเทศสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย ขู่ที่จะเปลี่ยนแคนาดาให้เป็นรัฐที่ 51 และประกาศจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาในอัตราสูง ทำเนียบขาว ระบุว่า มีความจำเป็นเพื่อหยุดยั้งการไหลเวียนของสารเฟนทานิลผ่านพรมแดนของตน


 



 


#นายกแคนาดา


#มาร์คคาร์นีย์


Cr.THE CANADIAN PRESS
ข่าวทั้งหมด

X