ดัชนีหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,177.44 จุด ลดลง 24.59 จุด มูลค่าการซื้อขาย 34,257.69 ล้านบาท ต่างชาติซื้ขายสุทธิ 3,386.47 ลบ. การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบทั้งวัน ช่วงบ่ายปรับลงแรง โดยทำจุดต่ำสุดที่ 1,177.44 จุด และจุดสูงสุดที่ 1,196.52 จุด ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 127 หลักทรัพย์ ลดลง 376 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 164 หลักทรัพย์ หุ้นไทยยังปรับตัวลงต่อเนื่องส่วนหนึ่งก็มาจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนหดหาย
ปัจจัยต่างประเทศเป็นลบ เศรษฐกิจจีนส่อเค้าชะลอตัว ล่าสุดตัวเลขเงินเฟ้อออกมาต่ำกว่าคาด, ตัวเลขดุลการค้า, การบริโภคภายในประเทศ (Domestic Demand) ก็ออกมาไม่ดี ทำให้ไม่มั่นใจว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้มากนัก ขณะเดียวกันตลาดกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวกว่าที่คาด จึงเป็น 2 ปัจจัยที่ทำให้มีแรงขายออกมาเพิ่มขึ้น จากเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (7 มี.ค.) ดัชนีปรับตัวขึ้นมากจากแรงเก็งกำไรกลุ่ม China play
หากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามา อาจทำให้ตลาดหุ้นปรับลงต่อเนื่องไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิม 1,173 จุด ถ้ารับไม่อยู่ก็มีสิทธิสร้าง ระดับต่ำสุดใหม่ ขณะที่ต่างชาติก็ยังไม่ค่อยชอบหุ้นไทยเท่าไรนัก
ดังนั้น กลยุทธ์ช่วงนี้ขึ้นก็ขายรอลงมาระดับต่ำแล้วค่อยซื้อ จนกว่าจะเริ่มมีสัญญาณขึ้น โดยปัจจุบันเศรษฐกิจไทยเติบโตต่ำ ฉะนั้น กำไรของบริษัทจดทะเบียนก็ไม่ค่อยดี ยิ่งทำให้ต่างชาติไม่กล้าเข้ามาซื้อ และหันไปซื้อในตลาดหุ้นอื่นที่มีโอกาสเด้ง ดีกว่าหุ้นไทยที่ซึมลงไปเรื่อยๆ
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วงลงในวันนี้ (10 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินฝืดของจีน หลังจีนเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อลดลงสู่ระดับต่ำกว่าศูนย์เป็นครั้งแรกในรอบ 13 เดือน ดัชนีฮั่งเส็งปิดตลาดที่ระดับ 23,783.49 จุด ลดลง 447.81 จุด
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกในวันนี้ (10 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นที่ร่วงลงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม แรงซื้อยังถูกจำกัดจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบมาตรการภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่อาจมีต่อเศรษฐกิจโลก ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 37,028.27 จุด เพิ่มขึ้น 141.10 จุด
#หุ้นเอเชีย
#สงครามการค้า