ผบ.ตร.ลงนามคำสั่ง 'ไล่ออก' พล.ต.อ.สุรเชษษฐ์ หักพาล' ยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน

11 มีนาคม 2568, 13:42น.


          พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ลงนามคำสั่งไล่ออก พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผบ.ตร. ตามมติที่คณะกรรมการพิจารณาโทษซึ่งมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร.อาวุโสสูงสุด เป็นประธาน และรอง ผบ.ตร.ทุกคน และจเรตำรวจแห่งชาติเป็น กรรมการ โดยโทษวินัยร้ายแรงของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ คือให้ไล่ออกจากราชการ และทำให้พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ไม่ได้รับบำเหน็จบำนาญ



          อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สามารถอุทธรณ์คำสั่ง ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ได้ ภายใน 30 วัน หากก.พ.ค.ตร.ยืนตามคณะกรรมการวินัย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังสามารถใช้สิทธิฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไป ซึ่งหากศาลปกครองสูงสุดยืนตามก.พ.ค.ตร. ก็จะทำให้คดีวินัยถึงที่สุดก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของการพิจารณาถอดยศตำรวจต่อไป



           เมื่อวันที่ 7 มี.ค.2568 พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาโทษที่มีรอง ผบ.ตร.ทุกคน เป็นกรรมการ เพื่อพิจารณาโทษวินัยร้ายแรงของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.กรณีพัวพันเว็บพนันผิดกฎหมาย โดย พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้เข้าร่วมประชุมเนื่องจากเป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัย ส่วนพล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร.และพล.ต.อ.ธนา ชูวงษ์ รอง ผบ.ตร. ติดภารกิจจึงไม่ได้เข้าร่วมประชุมเช่นเดียวกัน ที่ประชุมจึงมีเพียงพล.ต.อ.ไกรบุญ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข และพล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร.



          ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 125 บัญญัติไว้ว่าข้าราชการตำรวจที่กระทำผิดวินัยร้ายแรงเมื่อผู้มีอำนาจในที่นี้ คือ ผบ.ตร.จะสั่งลงโทษทางวินัยร้ายแรง ซึ่งมี 2 สถานคือ ปลดออก ไล่ออก แต่การพิจารณาโทษ ผบ.ตร.จะมีคำสั่งเลยไม่ได้ จะต้องตั้งคณะกรรมการพิจารณาโทษ เพื่อเสนอแนะว่าต้องลงโทษสถานใด ระหว่างปลดออก ไล่ออก เมื่อพิจารณาแล้วได้ความว่าอย่างไรจะต้องเสนอแนะ ผบ.ตร.ในฐานะผู้มีคำสั่งแต่งตั้ง จากนั้น ผบ.ตร.จะต้องออกคำสั่งตามที่คณะกรรมการพิจารณาได้เสนอ



#ไล่ออกบิ๊กโจ๊ก



 

ข่าวทั้งหมด

X