สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ได้ลงมติในการประชุมเมื่อคืนนี้(11 มี.ค.68)ตามเวลาท้องถิ่นหรือเช้าวันนี้(12 มี.ค.68) ตามเวลาประเทศไทย ด้วยเสียงส่วนใหญ่ 217 ต่อ 213 เสียง ผ่านร่างกฏหมายงบประมาณระยะสั้น (stop-gap funding bill) เพื่อช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางของสหรัฐฯได้รับการอุดหนุนด้านงบประมาณเพียงพอที่จะเปิดบริการแก่ประชาชนไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.68 การโหวตในครั้งนี้ สส.ส่วนใหญ่ของทั้งสองพรรค คือ พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต โหวตตามมติของแต่ละพรรค โดยมีเพียง สส. 2 คน คือ นายโทมัส แมสซี พรรครีพับลิกันจากรัฐเคนทักกี และนายจาเร็ด โกลเดน พรรคเดโมแครตจากรัฐเมน โหวตสวนมติพรรค
ก่อนหน้านี้ นายทรัมป์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับสส.จากพรรครีพับลิกันบางคนที่วิจารณ์ร่างกฏหมายฉบับนี้เช่น สส.ทิม เบอร์เชตต์ พรรครีพับลิกันจากรัฐเทนเนสซี ขณะที่รองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ ได้พูดคุยกับสส.จากพรรครีพับลิกันในการประชุมลับเช้าเมื่อวานนี้ ขอให้ทุกคนแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และลงคะแนนตามมติพรรค สนับสนุนร่างกฏหมายฉบับนี้
สำหรับขั้นตอนต่อไป นายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯจะส่งเรื่องให้นายจอห์น ธูน ประธานวุฒิสภาสหรัฐฯ บรรจุเข้าสู่วาระการประชุมของสว.เพื่อให้ที่ประชุมอภิปรายและลงมติก่อนเสนอเรื่องให้ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามประกาศใช้เป็นกฏหมายก่อนเที่ยงคืนวันศุกร์นี้(14 มี.ค.68) เพื่อเลี่ยงชัตดาวน์
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ดำเนินมาตรการเชิงรุกในเรื่องการปรับลดขนาดองค์กรของรัฐ มีเจ้าหน้าที่ของรัฐราว 100,000 คนจากจำนวนทั้งหมด 2.3 ล้านคนถูกเลิกจ้าง หรือสมัครเข้าร่วมโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดตามนโยบายปรับลดงบประมาณของรัฐบาลทรัมป์
#สภาคองเกรสสหรัฐ
#โหวตร่างกฏหมายงบประมาณ