ตอบโต้ทันที! EU ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ ร้อยละ 25 มีผลทันที

          หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรในอัตราร้อยละ 25 จากสินค้านำเข้าประเภทเหล็กและอะลูมิเนียมจากทั่วโลก รวมถึงจากกลุ่มสหภาพยุโรป(EU) มีผลตั้งแต่วันนี้ (12 มี.ค.) ซึ่งจะกระทบการส่งออกสินค้าของกลุ่มอียูมูลค่ากว่า 18,000 ล้านยูโร นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ในฐานะองค์กรฝ่ายบริหารของกลุ่ม EU ประกาศมาตรการตอบโต้ ด้วยการเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯในอัตราเท่ากัน รวมมูลค่า 26,000 ล้านยูโร เพื่อปกป้องผู้บริโภคและธุรกิจในกลุ่ม EU สำหรับมาตรการของกลุ่มอียูจะแบ่งเป็น 2 ระยะ คือระยะแรกเริ่มมีผลกับสินค้าบางกลุ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.นี้ จากนั้น ระยะที่ 2 จะมีการปรับขึ้นสินค้าทุกกลุ่ม ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.นี้

          นางฟอน เดอร์ เลเยน แสดงความเสียใจที่ต้องใช้มาตรการตอบโต้ทางภาษีกับสหรัฐฯ พร้อมทั้งมอบหมายให้นายมารอส เซฟโควิก กรรมาธิการด้านการค้าของสหภาพยุโรป (EU) ทำหน้าที่เจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาพิพาทในลักษณะที่เกิดผลดีต่อทั้งสองฝ่าย สำหรับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯที่กลุ่ม EU จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราร้อยละ 25 คือ สินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าเกษตร เช่น เหล็ก, อะลูมิเนียม, สิ่งทอ, เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน, พลาสติก, เนื้อเป็ด-ไก่, เนื้อวัว,ไข่ไก่, ผลิตภัณฑ์นม,น้ำตาลและผัก 

          นักวิเคราะห์เชื่อว่า มาตรการของรัฐบาลทรัมป์ ในการปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจะช่วยส่งเสริมการผลิตเหล็กและอะลูมิเนียมภายในสหรัฐฯ แต่นักวิเคราะห์เห็นว่า มาตรการนี้จะทำให้ผู้ประกอบการของสหรัฐฯผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้นโดยปรับเพิ่มราคาสินค้า ซึ่งอาจจะกระทบผู้บริโภคและการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯในปีนี้

          ทั้งนี้ สหรัฐฯเป็นผู้นำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมรายใหญ่ โดยแคนาดา เม็กซิโกและบราซิล เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ 3 อันดับแรกสำหรับตลาดสหรัฐฯ

#อียูตอบโต้สหรัฐ

#มาตรการภาษี

แฟ้มภาพ