การประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม ของสหรัฐอเมริกา ส่งผลทำให้ บริษัท โพสโค โฮลดิ้งส์ (Posco Holdings) และฮุนได สตีล (Hyundai Steel) ผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ 2 รายของเกาหลีใต้ กำลังพิจารณาทางเลือกการลงทุนในโรงงานแห่งใหม่ ในขณะที่บรรดาผู้ผลิตรายใหญ่ทั่วโลกต่างเตรียมเผชิญหน้ากับภาษีนำเข้าเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันนี้(12 มี.ค.)
โดยทั้งสองบริษัทระบุว่า ทางเลือกดังกล่าวรวมถึงการลงทุนสร้างโรงงานในสหรัฐฯ แม้จะยังไม่มีการตัดสินใจในขั้นสุดท้ายก็ตาม
การยกระดับการปกป้องผู้ผลิตเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลให้มีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าโลหะดังกล่าวจากทุกประเทศทั่วโลกในอัตรา 25% และขยายขอบเขตอัตราภาษีให้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ปลายน้ำหลายร้อยรายการที่ผลิตจากเหล็กและอะลูมิเนียม ตั้งแต่น็อตและสกรู ใบมีดของรถดันดิน และกระป๋องน้ำอัดลม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากภาษีดังกล่าวมากที่สุดคือ แคนาดา บราซิล เม็กซิโก และเกาหลีใต้
โฆษกของโพสโค โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า "เรามีแผนจะมุ่งเน้นไปที่การผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) และส่งเสริมขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีเพื่อผลิตสินค้าที่มีอยู่แล้วได้ประหยัดมากขึ้น" และเสริมว่า
"นอกจากนี้ เรากำลังพิจารณาแผนการลงทุนในกระบวนการผลิตเหล็กกล้าต้นน้ำในสหรัฐฯ หรืออินเดียด้วย แต่ยังไม่มีการตัดสินใจในขั้นสุดท้าย"
ขณะที่โฆษกของฮุนได สตีล คู่แข่งในประเทศ ระบุว่า บริษัทกำลังพิจารณาที่จะสร้างโรงงานเหล็กกล้าทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ แต่ยังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ และเสริมว่า การปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเหล็กกล้าของเกาหลี
#เหล็กกล้า
#สหรัฐขึ้นภาษี
#เกาหลีใต้