ประธานาธิบดีมาร์เซโล รีเบโล เดอ ซูซ่า แห่งโปรตุเกส ตัดสินใจยุบสภาและจัดให้มีการเลือกตั้งระดับชาติในวันที่ 18 พ.ค.68 ถือเป็นการตัดสินใจที่หลายคนจับตามอง หลังจากปรึกษาหารือกับพรรคการเมืองหลักๆ และสภาที่ปรึกษาแห่งรัฐ ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากพรรคการเมืองหลักๆ โดยเขากล่าวว่าได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้จัดการเลือกตั้งกะทันหัน รัฐบาลรับบทบาทรักษาการจนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐสภาชุดใหม่
โปรตุเกส จะจัดการเลือกตั้งรัฐสภาครั้งก่อนกำหนด ซึ่งจะเป็นครั้งที่สามในรอบกว่าสามปี ในวันดังกล่าว เนื่องจาก รัฐบาลเสียงข้างน้อยฝ่ายกลางขวาแพ้การลงมติไม่ไว้วางใจในรัฐสภา
เมื่อวันอังคาร(11 มี.ค.68) รัฐบาลเสียงข้างน้อยฝ่ายกลางขวาของนายกรัฐมนตรี ลูอิส มอนเตเนโกร แห่งประเทศโปรตุเกส พ่ายแพ้การลงมติไม่ไว้วางใจด้วยคะแนนเสียง 142 ต่อ 88 การแพ้โหวตไม่ไว้วางใจไม่ได้มีข้อผูกมัดให้ประธานาธิบดีต้องยุบสภา แต่เขาแสดงความชัดเจนไว้ก่อนแล้วว่า หากรัฐบาลแพ้โหวตเขาจะยุบสภา และคาดว่าการเลือกตั้งครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นในเดือนพ.ค.68 นี้
รัฐบาลเป็นผู้ยื่นญัตติไม่ไว้วางใจในครั้งนี้เอง หลังจากพรรคสังคมนิยม ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน ประกาศว่าจะผลักดันกระบวนการสอบสวนของรัฐบาล เรื่องการจัดการธุรกิจของนายกรัฐมนตรีมอนเตเนโกร หลังจากเมื่อกลางเดือนก.พ.68 สื่อในประเทศรายงานถึงความผิดปกติในบริษัทที่เขาก่อตั้ง
#โปรตุเกส
#เตรียมเลือกตั้ง
แฟ้มภาพ