รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาออกข้อจำกัดการเดินทางเข้าสหรัฐฯ ครอบคลุมพลเมืองจาก 43 ประเทศ ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มแรกประกอบด้วย 11 ประเทศ จะถูกระงับวีซ่าสหรัฐฯ ทุกประเภท ได้แก่ อัฟกานิสถาน, ภูฏาน, คิวบา, อิหร่าน, ลิเบีย, เกาหลีเหนือ, โซมาเลีย, ซูดาน, ซีเรีย, เวเนซุเอลา, เยเมน
กลุ่มที่สองประกอบด้วย 10 ประเทศ จะถูกระงับวีซ่าบางส่วน โดยมียกเว้นบางประการ ได้แก่ เบลารุส, เอริเทรีย, เฮติ, ลาว, เมียนมา, ปากีสถาน, รัสเซีย, เซียร์ราลีโอน, เซาท์ซูดาน, เติร์กเมนิสถาน
กลุ่มที่สามประกอบด้วย 22 ประเทศ จะถูกพิจารณาระงับวีซ่าบางส่วน หากรัฐบาลของประเทศเหล่านั้นไม่พยายามแก้ไขข้อบกพร่องภายใน 60 วัน ได้แก่ แองโกลา, แอนติกาและบาร์บูดา, เบนิน, บูร์กินาฟาโซ, กัมพูชา, แคเมอรูน, เคปเวิร์ด, ชาด, สาธารณรัฐคองโก, สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก, โดมินิกา, อิเควทอเรียลกินี, แกมเบีย, ไลบีเรีย, มาลาวี, มาลี, มอริเตเนีย, เซนต์คิตส์และเนวิส, เซนต์ลูเซีย, เซาตูเมและปรินซิปี, วานูอาตู, ซิมบับเว
โดยในวันแรกที่เข้ารับตำแหน่งสมัยที่สอง เมื่อวันที่ 20 มกราคม (2568) ประธานาธิบดีทรัมป์ ออกคำสั่งฝ่ายบริหารให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้าสหรัฐฯ เพื่อสกัดภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ พร้อมให้คณะรัฐมนตรีเสนอรายชื่อประเทศที่ควรระงับการเดินทางบางส่วนหรือทั้งหมด โดยมีกำหนดส่งความเห็นภายในวันที่ 21 มีนาคมนี้ ซึ่งยังเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายปราบปรามผู้อพยพที่เขาประกาศไว้ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง ทำให้รายชื่อประเทศเหล่านี้ ยังอาจมีการเปลี่ยนแปลง และยังต้องรอความเห็นจากนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯ
การพิจารณาประกาศห้ามพลเมืองจากบางประเทศเข้าสหรัฐฯ คล้ายกับเมื่อครั้งที่ประธานาธิบดีทรัมป์ดำรงตำแหน่งสมัยแรก เมื่อปี 2561 ซึ่งในครั้งนั้นห้ามพลเมืองจาก 7 ประเทศที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมเข้าสหรัฐฯ
...
#โดนัลด์ทรัมป์
#นโยบายคนเข้าเมือง