สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ราคาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ปิดตลาดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 3,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในวันศุกร์ (14 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนแห่เข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เกิดจากมาตรการภาษีศุลกากรของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค. เขาได้ดำเนินนโยบายอย่างแข็งกร้าว ไม่ว่าจะเป็นการเรียกเก็บภาษีสินค้าที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ การประกาศเจตนาที่จะผนวกกรีนแลนด์เข้ากับดินแดนสหรัฐฯ รวมถึงวิธีการทางการทูตที่ไม่เป็นไปตามแบบแผนเพื่อยุติสงครามในยูเครน ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้ได้ผลักดันให้ราคาทองคำพุ่งทำสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงแรก กระแสเงินทุนที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF ทองคำ ส่วนใหญ่มาจากนักลงทุนยุโรป แต่นักวิเคราะห์มองว่าความปั่นป่วนทางนโยบายของสหรัฐฯ เริ่มดึงดูดแม้แต่นักลงทุนอเมริกัน ซึ่งโดยปกติแล้วชอบลงทุนในตลาดหุ้น
ข้อมูลจากสภาทองคำโลก (WGC) ระบุว่า กองทุน ETF ที่จดทะเบียนในยุโรปได้ถือครองทองคำเพิ่มขึ้น 46.7 เมตริกตัน หรือเพิ่มขึ้น 3.6% แตะที่ระดับ 1,334.3 ตัน นับตั้งแต่ต้นปี 2568 ซึ่งสวนทางกับช่วงปี 2564-2567 ที่เงินทุนไหลออกจากกองทุนจำนวนมาก
นอกจากกระแสเงินทุนจากนักลงทุนสถาบันที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF ทองคำแล้ว นักลงทุนรายย่อยทั่วโลกก็ยังแสวงหาการลงทุนในทองคำเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเอเดรียน แอช ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของบูลเลียนวอลต์ (BullionVault) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายทองคำจากอังกฤษ เปิดเผยว่า ในเดือนก.พ.จำนวนผู้ซื้อทองคำเป็นครั้งแรกบนแพลตฟอร์มของบริษัทพุ่งสูงสุดแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2564
สำหรับราคาทองคำในประเทศ วันนี้ เปิดตลาดเพิ่มขึ้น 100 บาท ก่อนเคลื่อนไหวลดลง 50 บาท ทำให้เมื่อเวลา 11.55 น. ราคาทองคำยังบวกได้ 50 บาท
+++ทองคำแท่งรับซื้อ 47,500 ขายออก 47,550
+++ทองรูปพรรณ รับซื้อ 46,601.84 ขายออก 48,350
#เศรษฐกิจจีน