กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รายงานว่า แบตเตอรี่อุปกรณ์ติดตามตัวสัตว์ทะเลด้วยดาวเทียม (Sattlelite tag) ของคุณปู่เป้แดงหมดลงแล้ว มากกว่า 1 สัปดาห์ที่เราได้เรียนรู้ข้อมูลที่สำคัญจากอุปกรณ์ในเป้สีแดงที่อยู่บนหลังคุณปู่ ซึ่งนักวิจัยผู้พัฒนาเครื่องต้นแบบนี้ได้เพิ่มขีดความสามารถให้แก่เป้สีแดงใบดังกล่าว เป็นมากกว่าเครื่องส่งสัญญาณดาวเทียม
เป้สีแดงสามารถ บันทึก จดจำและจำแนกเสียงด้วยระบบ AI เช่น เสียงเต่า เสียงปลา เสียงเรือ ที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางของคุณปู่ โดยวันช่วงแรกที่อ่าวตังเข็นเราสามารถรับเสียงพะยูนในบริเวณอ่าวนั้นได้ชัดเจน จนมาถึงล่าสุดบริเวณหมู่เกาะสิมิลันเราพบสัญญาณเสียงพะยูนจำนวน 2 ครั้งก่อนที่ แบตเตอรี่จะดับไป
ปัจจุบันอุปกรณ์ติดตามตัวสัตว์ทะเลด้วยดาวเทียม จะอยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนา แต่ในอนาคต เครื่องมือดังกล่าวจะสามารถช่วยเราสำรวจประชากรพะยูนได้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากเต่าตนุและพะยูน นั้นอาศัยและหากินในแหล่งหญ้าทะเลเหมือนกัน
ด้านเพจ ThaiWhales ระบุว่า จากการคุยกับคุณหมอฟ้าและน้องไหมคนไทยในทีมนักวิจัยชาวญี่ปุ่น สันนิษฐานว่าคุณปู่ว่ายใกล้ผิวน้ำบ่อยและตัวเครื่องส่งสัญญาณดาวเทียมยังมีการส่งข้อมูลต่างๆ ที่คุณปู่นักวิทยาศาสตร์ไปเจอด้วย และส่งสัญญาณกลับมาถี่ แบตฯเลยหมดเร็วกว่าที่คาด
ทีมคุณหมอจากกรมทช. ประสานงานกับพี่ๆกรมอุทยานและเครือข่ายเรือท่องเที่ยวให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาแล้ว จากนี้ใครเห็นเต่าตัวโตๆ กระดองมีก้อนสีขาวๆ ถ่ายรูปมาให้คุณหมอและเราดูด้วยนะคะ หรือพบเห็นเต่าทะเลและสัตว์ทะเลหายากตัวอื่นๆก็แจ้งได้เลยค่ะ
เมื่อเป้แดงหลุดออก จากนี้เราหวังว่า คุณปู่จะได้ใช้โอกาสที่ 2 ของชีวิตในทะเลบ้านเดิมของเค้าอย่างมีความสุข ได้มีลูกมีหลาน และอยู่อย่างปลอดภัย เช่นเดียวกับเต่าทะเลทุกๆตัว อย่าลืมช่วยกันดูแลทะเล ระวังสิ่งที่ก่อให้เกิดขยะจากการใช้ของเรา เรื่องเล็กๆนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยลดจำนวนเต่าทะเลและสัตว์ต่างๆที่มาเกยตื้นได้ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำได้สำหรับทุกๆคนที่เป็นห่วงและรักปู่นะคะ เดินทางปลอดภัย อยู่ดีมีสุขนะ คุณปู่เป้แดง
#ปู่เป้แดง
#เต่าตนุ