สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสและเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งซาอุดีอาระเบียได้พูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อวานนี้ (19 มี.ค.68)เพื่อหารือเรื่องสถานการณ์ในเขตฉนวนกาซาและกระบวนการเจรจาสันติภาพในยูเครน โดยผู้นำทั้งสองได้ประณามอิสราเอล หลังเปิดฉากโจมตีทางอากาศในเขตฉนวนกาซารอบใหม่เมื่อวันอังคาร(18 มี.ค.68) มีผู้เสียชีวิตกว่า 400 ราย ทั้งนี้ นายมาครงได้โพสต์ข้อความทาง X หลังประชุมทางโทรศัพท์กับมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียว่า ฝรั่งเศสและซาอุดีอาระเบียจะร่วมเป็นประธานร่วมในการจัดประชุมในเร็วๆนี้ หารือแนวทางการจัดตั้ง 2 รัฐ เพื่อช่วยคลี่คลายปัญหาพิพาทในเรื่องดินแดนระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ พร้อมขอให้อิสราเอลและกลุ่มฮามาสกลับสู่โต๊ะเจรจาหยุดยิงอีกครั้ง จะช่วยให้ตัวประกันทุกคนได้รับการปล่อยตัวและช่วยปกป้องชาวบ้านในเขตฉนวนกาซาให้ปลอดภัย
ก่อนหน้านี้ กองกำลังป้องกันอิสราเอล(IDF)แถลงเมื่อวานนี้(19 มี.ค.68)ว่า อิสราเอลเริ่มบุกทางภาคพื้นดินในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ของเขตฉนวนกาซา และเป็นวันที่ 2 ของการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล มีผู้เสียชีวิต 48 ราย ตามรายงานจากกระทรวงสาธารณสุขของเขตฉนวนกาซา เป็นการโจมตีอีกครั้งหนึ่งของอิสราเอลที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดสงครามในเขตฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2566 ทั้งฉีกข้อตกลงหยุดยิง หลังใช้บังคับมาตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.68
ในเรื่องยูเครน นายมาครงชื่นชมมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียสำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณะผู้แทนสหรัฐฯและรัสเซียในเมืองเจดดาห์เมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อหารือแผนสันติภาพในยูเครน นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองได้หารือเรื่องสถานการณ์ในเลบานอน และซีเรีย โดยเฉพาะซีเรีย นายมาครง ระบุว่า ฝรั่งเศสและซาอุดีอาระเบีย เห็นพ้องกัน รัฐบาลเฉพาะกาลของซีเรียควรเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นในอนาคต
#ฝรั่งเศส
#ซาอุดีอาระเบีย
#สงครามกาซา
#แผนสันติภาพยูเครน