แก็งค้ามนุษย์ 'ไทย-กะเหรี่ยง-พม่า' ยังลักลอบขนแรงงานโรฮิงญาไปมาเลเซีย

28 มีนาคม 2568, 10:01น.


          กรณีที่มีชาวโรงฮิงญา 2 คน คือ นายบาเมาะ ซอพี อายุ 33 ปี และ นายซอลิมเจาะ อายุ 20 ปี ได้พากันหนีตายออกมาจากค่ายพักในพื้นที่คุ้มครองของกองกำลังชนกลุ่มน้อย บริเวณชายแดนไทย - เมียนมา โดยชาวโรงฮิงญาทั้ง 2 คน ได้หลบหนีข้ามแดนเข้ามาทางหมู่บ้านสันตินิมิตร หมู่ที่ 10 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร มีชาวบ้านพบเห็นได้แจ้งผู้นำท้องถิ่นและประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าแซะ จากการสอบสวนในเชิงลึกของเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 หน่วยงาน ชาวโรฮิงญา ทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นเครือญาติกัน อ้างว่าได้พาลักลอบหนีออกจากค่ายในเขตคุ้มครองของกองกำลังชนกล่มน้อย ซึ่งเป็นแหล่งเดียวกับชาวโรฮิงญา จำนวนกว่า 400 คน ตามที่เจ้าหน้าที่ของรัฐฝ่ายความมั่นคงกอ.รมน.ภาค 4 และ เจ้าหน้าที่สำนักสอบสวน 4 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ลงพื้นที่ทำการตรวจสอบเมื่อห้วงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 68



          โดยมีชาวเมียนมานำพามาพักไว้เพื่อส่งขายต่อไปที่ประเทศมาเลเซีย โดยใช้ประเทศไทยเป็นแหล่งพำนัก จากนั้นจึงส่งต่อไปยังประเทศมาเลเซีย ผ่านนายหน้าแก๊งค้ามนุษย์ เป็นกลุ่มบุคคล 3 สัญชาติ มีทั้งคนไทย พม่า กะเหรี่ยง มีลักษณะการกระทำของบุคคลร่วมกันเป็นขบวนการเป็นธุระจัดหาจัดคนมาจากประเทศเมียนมา มีการซื้อขายในราคา 45,000 บาท ถึง 50,000 บาท เป็นการขายโดยพามาจากค่ายพักในประเทศเมียนมา ลักลอบนำเข้ามาที่พำนักในประเทศไทย บริเวณพื้นที่ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จากนั้นได้ส่งต่อจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง จนถึงผู้รับเป้าหมายปลายทางที่ประเทศมาเลเซีย ที่ผ่านมามีการลักลอบนำพาผ่านประเทศไทยไปประเทศมาเลเซีย แล้วกว่า 200 คน



          จากพฤติกรรมการกระทำดังกล่าวเป็นในรูปแบบลักษณะของกระบวนการค้ามนุษย์ กระทำการกักขังไว้ในประเทศไทย จัดที่พักจริงให้อาศัย จากนั้นมีบุคคลรับต่อส่งไปให้ผู้อื่น พาไปสู่ที่พักไว้ที่ประเทศมาเลเซีย โดย มีวิธีการคือทำให้กลัว บังคับใช้แรงงาน หรือใช้กำลังบังคับ มีการพาตัวไปเป็นการแสวงหาผลประโยชน์มิชอบ ให้เงินแก่รายได้เพื่อแสวงหาประโยชน์จากตัวบุคคลชาวโรฮิงญาทั้ง 2 คน



          โดยชาวโรฮิงญาทั้ง 2 คน ให้การยืนยัน ว่า ตนเองได้หลบหนีออกมา จากค่ายเดิมที่อยู่ห่างชายแดนไทย ประมาณ 5 กม. เนื่องจากไม่มีเงินจ่ายให้กับแก๊งค้ามนุษย์นำพาไปส่งยังประเทศมาเลเซีย และต้องทนอยู่อย่างลำบาก หิวโหย ถูกบังคับใช้แรงงาน ข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย จึงต้องพากันหนีตายเข้ามายังฝั่งประเทศไทยดังกล่าว



          ชาวโรงฮิงญาทั้ง 2 คน ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง กอ.รมน.ภาค 4 และ เจ้าหน้าที่สำนักสอบสวน 4 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินอีกว่า ขณะนี้ค่ายพักชาวโรฮิงญาในพื้นที่เดิมดังกล่าว ยังมีชาวโรฮิงญาพำนักอยู่อีกกว่า 200 คน รอการส่งตัวลักลอบข้ามแดนไปผ่านเข้ามาพำนักในพื้นที่ ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เพื่อส่งต่อไปยังประเทศมาเลเซีย



 



#โรฮิงญา

ข่าวทั้งหมด

X