ตำรวจเกาหลีใต้ พบผู้ต้องสงสัยต้นเหตุไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เหตุจุดกิ่งไม้ ขณะทำความสะอาดสุสาน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตำรวจเกาหลีใต้เริ่มการสืบสวนชายวัย 56 ปีคนหนึ่ง ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นต้นเหตุทำให้เกิดไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 30 ศพ หลังชายคนนี้ไปเยี่ยมทำความสะอาดสุสานของญาติผู้ใหญ่เมื่อ 22 มี.ค. 2565 แล้วจุดไฟเผากิ่งไม้
ชายผู้ต้องสงสัยเป็นชาวเขตอุยซอง ในจังหวัดคยองซังเหนือ ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่ามากที่สุด โดยตำรวจระบุว่า ตอนนี้พวกเขาเพียงนำตัวชายคนนี้มาลงบันทึกเอาไว้ ยังไม่มีการจับกุม และจะเรียกตัวเขามาสอบปากคำเมื่อการตรวจสอบสุสานที่เกิดเหตุเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งอาจใช้เวลามากกว่า 1 เดือน ขณะที่ชายผู้ต้องสงสัยปฏิเสธข้อกล่าวหา
ตำรวจไม่เปิดเผยว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้ชื่ออะไร ขณะที่สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานว่า ลูกสาวของชายคนนี้เล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่า พ่อของเธอพยายามใช้ไฟแช็กจุดเผากิ่งไม้ที่ห้อยอยู่เหนือสุสาน และกระแสลมหอบสะเก็ดไฟไปติดที่อื่นจนเกิดเป็นไฟป่าขึ้นมา
แต่ตำรวจเกาหลีใต้ไม่ยืนยันว่า รายงานของยอนฮัปเป็นความจริงหรือไม่
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้ก็สามารถควบคุมไฟป่าจุดหลักได้แล้ว หลังพยายามมา 10 วันเมื่อวานนี้(30 มี.ค.) หลังไฟป่าถูกกระแสลมพัด ลุกลามอย่างรวดเร็ว และเป็นต้นเหตุให้เกิดไฟป่าจุดอื่นๆ อีกนับสิบแห่ง เผาผลาญพื้นที่รวมกว่า 48,000 เฮกตาร์ หรือเทียบเท่า 80% ของพื้นที่กรุงโซล เผาทำลายสิ่งปลูกสร้างไปมากกว่า 4,000 แห่ง ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน, โรงงาน หรือสมบัติของชาติ วันโกอุน วัดเก่าแก่ในจังหวัดคยองซังเหนือ ที่สร้างตั้งแต่ ค.ศ. 618 และได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เป็นหนึ่งในสิ่งปลูกสร้างที่ถูกไฟป่าเผาทำลาย และแม้จะควบคุมไฟป่าจุดหลักได้แล้ว แต่ไฟป่าขนาดเล็กอื่นๆ ยังคงลุกมาติดใหม่อย่างต่อเนื่อง เพราะอากาศที่แห้งและมีต้นไม้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี
#เกาหลีใต้