คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ส่งรายละเอียดและร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ... (เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์) มายังวิป รัฐบาลแล้ว โดยวิปรัฐบาลได้นัดประชุม วันที่ 31 มีนาคม เพื่อพิจารณารายละเอียด อย่างไรก็ดี เบื้องต้นคาดว่า ร่างกฎหมายดังกล่าว จะเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ ในสัปดาห์หน้า เนื่องจากวาระการประชุม วันที่ 2-3 เม.ย. ได้กำหนดไว้แล้ว
สำหรับการอภิปรายร่างพ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร จะให้เวลามากเป็นพิเศษ เช่น 2 วันหรือไม่ นายศรัณย์ กล่าวว่า ต้องหารือกันในวิปอีกครั้งและขณะนี้ยังไม่ได้พูดถึงรายละเอียดขนาดนั้น
สำหรับการขอเสียงพรรค ร่วมรัฐบาลต้องเน้นเอกภาพและทิศทางเดียวกันทั้งหมดหรือไม่ นายศรัณย์ กล่าวว่า ต้องคุยกันอีกครั้ง เบื้องต้นเมื่อผ่าน ครม. แล้ว เชื่อว่าจะทำความเข้าใจร่วมกันมาแล้ว
ด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องดังกล่าวต้องทำให้ทันสมัยประชุมนี้
เมื่อถามว่า มองว่าจะทันในสมัยประชุมนี้ใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ทัน ทำให้มันทัน อะไรไม่ทันต้องทัน เมื่อถามว่า หากมีการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวในวันที่ 9-10 เมษายน แล้วสมาชิกสนใจเยอะจะทันหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า สนใจก็ให้พูดไป เราเอาจนจบ จะจบกี่โมง ก็ได้ กฎหมายหรือว่าอะไรที่ค้างก็จะพยายามพิจารณาให้ได้มากที่สุด โดยจะไม่ถึงขั้นที่ต้องเพิ่มวันประชุม
เมื่อถามว่า มองว่าจะได้รับความร่วมมือจากสมาชิกมากน้อยแค่ไหน นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า "รัฐบาลเอาหมด" ต่อข้อถามว่า ได้มีการคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้านแล้วหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่าถ้า ร่างพ.ร.บ. ดังกล่าว ทั้งนี้เมื่อเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรก็เป็นเอกสิทธิ์ของสส. แต่โดยหลักแล้ว เมื่อผ่านความเห็นชอบวาระแรก จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณา แล้วไปว่ากันในชั้นกรรมาธิการ
เมื่อถามว่าขณะนี้ ยังมีเสียงต้านเรื่อง กฎหมายดังกล่าวจะชี้แจงอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า เสียงต้านต่างๆ เราได้นำ ไปประกอบระหว่างการยกร่าง และเป็นร่างที่คณะกรรมการกฤษฎีกา สรุปออกมา จึงเชื่อว่าร่างนี้มีความชอบธรรมตามกฎหมายและได้มีการรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกฝ่ายเรียบร้อยแล้ว
รมช.คลังเผย ใช้ที่ดินรัฐ ก่อสร้างสถานบันเทิงครบวงจร
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจะไม่มี ผลต่อการลงทุนในโครงการสถานบันเทิงครบวงจร เนื่องจากเป็นโครงการลงทุนระยะยาวและมีเงินลงทุนในโลกที่พร้อมเข้ามาลงทุน โดยในช่วงที่ผ่านมามีนักลงทุนหลายรายที่มีความสนใจเข้ามาลงทุนเพราะมองว่ามีความน่าลงทุนในโครงการประเภทนี้มากกว่าหลายประเทศ แม้แต่ญี่ปุ่น
ทั้งนี้รัฐบาลจะผลักดันร่างกฎหมายนี้เข้าสภาในสมัยการประชุมนี้ หรือภายใน เม.ย.นี้ คาดว่ากระบวนการยกร่างกฎหมายจนถึงการอนุมัติกฎหมายจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี และหลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้ จะมีการจัดตั้งสำนักงานของคณะกรรมการตามกฎหมายโดยคณะกรรมการ นโยบายฯ เป็นผู้กำหนดพื้นที่ที่เหมาะสม และจำนวนสถานบันเทิงที่เหมาะสม ซึ่งในเบื้องต้น พื้นที่ที่จะใช้ก่อสร้างโครงการ น่าจะเป็นที่ราชพัสดุหรือที่ดินของรัฐ
นอกจากนี้คณะกรรมการจะเป็นผู้กำหนดว่าในโครงการ ในแต่ละพื้นที่ควรจะประกอบด้วยอะไรบ้าง เช่น สวนสนุก, สนามกีฬาหรือพิพิธภัณฑ์ เพื่อเป็นแหล่งดึงดูดการท่องเที่ยวในบริเวณนั้น โดยขนาดของที่ดินที่เหมาะสมสำหรับโครงการนี้ราว 300 ไร่ โดยจะมีพื้นที่ที่เป็นกาสิโนไม่เกิน 10% ของที่ดินหรือพื้นที่ใช้สอยของอาคารอันเป็นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร แล้วแต่กรณีใดจะน้อยกว่ากัน โดยคาดว่าหลังจากกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ จะสามารถเริ่มโครงการนี้ หรือตอกเสาโครงการได้ ภายใน 3 ปี