ราคาน้ำมันขยับขึ้นราว 2% แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ในวันจันทร์(31มี.ค.) จากความกังวลว่าอุปทานจะลดลงหากว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำตามคำขู่รีดภาษีรัสเซียและเป็นไปได้ว่าจะโจมตีอิหร่าน และยังเป็นปัจจัย ที่ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 2.12 ดอลลาร์ ปิดที่ 71.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 1.11 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดผสมผสานในวันจันทร์(31มี.ค.) ดัชนีทั้ง 3 ตกอยู่ในภาวะสั่นคลอน จากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการรีดภาษีของทรัมป์ ที่ใกล้มีผลบังคับใช้ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 417.86 จุด (1.00 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 42,001.76 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 30.91 จุด (0.55 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,611.85 จุด แนสแดค ลดลง 23.70 จุด (0.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,299.29 จุด
ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าและรีดภาษีของรัฐบาลทรัมป์ ก่อให้เกิดแรงเทขายในตลาดหุ้นสหรัฐฯมาตั้งแต่ต้นปี และแนวโน้มของการรีดภาษีอย่างครอบคลุมเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับการค้าโลกที่จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและโหมกระพือเงินเฟ้อ
ส่วนราคาทองคำยังดีดตัวต่อเนื่องในวันจันทร์(31มี.ค.) แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกรอบ นักลงทุนถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำท่ามกลางความกังวลมาตรการรีดภาษีโหมกระพือเงินเฟ้อและฉุดการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 36 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 3,150.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์