บีบีซีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯเปิดเผยกับนักข่าวบนเครื่องบิน Air Force One เครื่องบินประจำตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯขณะบินจากกรุงวอชิงตันดี.ซี.มุ่งหน้ายังสนามบินเมืองไมอามี รัฐฟลอริดาว่า เขาจะสั่งปลดเจ้าหน้าที่สภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯบางคนที่มีแนวทางการทำงานไม่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่รัฐบาลจะสั่งให้ปลดเจ้าหน้าที่มีแนวทางการทำงานไม่ตรงกัน คนที่เอาเปรียบหรือ ไม่ภักดีต่อองค์กร โดยนายทรัมป์ไม่ได้เปิดเผยชื่อของเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
ด้านสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ 3 คนถูกปลดจากตำแหน่ง คือ นายไบรอัน วอลช์ ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวกรอง นายโธมัส บูดราย เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านกิจการนิติบัญญัติ และนายเดวิด ฟีธ ผู้อำนวยการอาวุโสที่กำกับดูแลด้านเทคโนโลยีและความมั่นคงแห่งชาติ นักวิเคราะห์มองว่า การตัดสินใจปลดเจ้าหน้าที่ดังกล่าว มีขึ้นหลังการประชุมระหว่างนายทรัมป์กับนส.เลารา ลูเมอร์ นักเคลื่อนไหวของพรรครีพับลิกันเมื่อวานนี้(3 เม.ย.) ที่มีกระแสข่าวว่า เธอเสนอให้นายทรัมป์ปลดเจ้าหน้าที่บางคน ซึ่งทำงานไม่สอดคล้องกับนโยบายการ อเมริกันกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ของรัฐบาลทรัมป์ และยังคาดว่า จะมีเจ้าหน้าที่สหรัฐฯอีกหลายคนถูกปลดจากตำแหน่ง
การปลดเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯครั้งนี้ มีขึ้นหลังเกิดกระแสวิจารณ์ของสาธารณชนในสหรัฐฯในเรื่องการทำงานของสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯในเดือนที่แล้ว หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงเชิญนักข่าวคนหนึ่งเข้าร่วมแชตลับทางแอปพลิเคชัน ส่งข้อความ Singal โดยผิดพลาด ก่อนสหรัฐฯเปิดฉากโจมตีกลุ่มฮูตีของเยเมนเมื่อวันที่ 15 มี.ค.แต่เบื้องต้นยังไม่มีความชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 คนนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อบกพร่องในการทำงานในเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด ที่ผ่านมา นายทรัมป์ยังคงยืนหยัดสนับสนุนเจ้าหน้าที่ระดับสูง เช่น นายไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ขณะที่นายวอลซ์เองได้ยอมรับผิดชอบต่อกรณีการเชิญนักข่าวร่วมแชตลับทางแอป Signal ระบุว่า เป็นข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ
#รัฐบาลทรัมป์
#ปลดเจ้าหน้าที่ความมั่นคง
#ปมแชตลับหลุดถึงนักข่าว