ตลาดหุ้นเอเชียพากันร่วงลงไปตามๆ กันหลังเปิดตลาดในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 7 เมษายน หลังจากที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทของสหรัฐก็ตกอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (4 เม.ย.) ผลต่อเนื่องกรรี ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากทั่วโลก ขณะที่จีนก็ประกาศว่าจะดำเนินมาตรการตอบโต้กลับทันท
ดัชนี Nikkei 225 ของโตเกียวร่วงลงเกือบ 8% ไม่นานหลังจากตลาดเปิดทำการ ก่อนที่ในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาก็ปรับลดลงเหลือ 7.1% อยู่ที่ 31,375.71 จุด
ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ลดลง 5.5% อยู่ที่ 2,328.52 จุด ขณะที่ดัชนี S&P/ASX 200 ของออสเตรเลียลดลง 6.3% อยู่ที่ 7,184.70 จุด
ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดฮ่องกง ร่วงหนัก เช่นกัน 10.43% อยู่ที่ 20,466.23 จุด
สมาคมค้าทองคำ รายงานว่า "ราคาทองวันนี้ 7 เมษายน 2568" ล่าสุด เวลา 09:08 น. เพิ่มขึ้น 150 บาท อยู่ที่
+++ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 49,750.00 บาท ขายออกบาทละ 49,850.00 บาท
+++ราคาทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 48,860.68 บาท ขายออกบาทละ 50,650.00 บาท
หลังจากนั้นเคลื่อนไหวอีก 3 ครั้ง ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
+++ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 49,600.00 บาท ขายออกบาทละ 49,700.00 บาท
ราคาทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 48,709.08 บาท ขายออกบาทละ 50,500.00 บาท
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทของสหรัฐเผชิญกับวิกฤตที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เกิดโควิด-19 โดยดัชนี S&P 500 ร่วงลง 6% และดัชนี Dow ร่วงลง 5.5% ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 5.8% หลังจากที่จีนขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐ 34% ซึ่งเป็นเท่ากับที่ทรัมป์ประกาศบังคับใช้กับสินค้าจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 เมษายนนี้ ส่งผลให้สงครามการค้าระหว่างประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 และ 2 ของโลกรุนแรงขึ้น ซึ่งทำให้ผู้เชี่ยวชาญออกมาเตือนว่าอาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกถดถอยและส่งผลกระทบกับทุกฝ่าย แม้ว่ารายงานเกี่ยวกับตลาดการจ้างงานของสหรัฐจะที่ดีกว่าที่คาดไว้ แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะหยุดยั้งการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐได้
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอยู่ที่มาร์-อา-ลาโก ซึ่งเป็นสโมสรส่วนตัวของเขาในฟลอริดา โพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า “นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีเยี่ยมสำหรับการร่ำรวย” ขณะที่เขายังได้ให้สัมภาษณ์บนเครื่องแอร์ฟอร์ซวันในเวลาต่อมาว่า รัฐบาลประเทศต่างๆ จะต้องจ่ายเงินจำนวนมากหากต้องการยกเลิกภาษีศุลกากรที่เขาอธิบายว่าเป็น “ยารักษาโรค” แม้ว่าตลาดการเงินจะบ่งชี้ว่าอาจเกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ในสัปดาห์นี้ก็ตาม ทรัมป์กล่าวกับนักข่าวว่า เขาไม่กังวลเกี่ยวกับการขาดทุนในตลาดที่ทำให้มูลค่าหุ้นของสหรัฐลดลงแล้วเกือบ 6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทรัมป์รับว่า ชาวอเมริกันอาจรู้สึกเจ็บปวดบ้างจากภาษีศุลกากร แต่เขากล่าวเช่นกันว่าเป้าหมายในระยะยาว ซึ่งรวมถึงการนำงานและการผลิตสินค้าต่างๆ กลับคืนสู่สหรัฐนั้นคุ้มค่า
นักเศรษฐศาสตร์ของ JPMorgan ประเมินว่า ภาษีต่อสินค้านำเข้าดังกล่าวจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐทั้งปีลดลง 0.3% ซึ่งต่ำกว่าการประมาณการก่อนหน้านี้ที่คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 1.3% และอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นเป็น 5.3% จาก 4.2% ในปัจจุบัน
#หุ้นเอเชีย
#ภาษีทรัมป์