สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซียได้โพสต์คลิปวิดีโอยาว 9 นาที ทางสื่อสังคมอออนไลน์ ชี้แจงต่อสาธารณชนในมาเลเซีย ว่า มาเลเซีย ในฐานะประธานของกลุ่มอาเซียนจะประสานกับผู้นำคนอื่นๆในกลุ่มอาเซียนเพื่อใช้วิธีเจรจาอย่างสร้างสรรค์กับรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯในการคลี่คลายข้อพิพาททางภาษีกับสหรัฐฯ เนื่องจากอาเซียนเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด จากมาตรการตอบโต้ทางภาษีของรัฐบาลทรัมป์ ย้ำว่าการเจรจากับสหรัฐฯจะช่วยให้กลุ่มอาเซียนรักษาตลาดสหรัฐฯซึ่งเป็นตลาดส่งออกสำคัญสำหรับภาคธุรกิจในกลุ่มอาเซียน อีกทั้งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและเกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกในกลุ่มอาเซียน
นายอันวาร์ ซึ่งควบตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง ย้ำว่า มาเลเซียจะไม่ประกาศมาตรการตอบโต้ทางภาษีกับสหรัฐฯ ย้ำว่ารากฐานทางเศรษฐกิจมหภาพของมาเลเซียยังคงแข็งแกร่ง เช่น ตัวเลขการใช้จ่ายของครัวเรือน การลงทุนในประเทศและรายได้จากภาคอุตสาหกรรมการท่องเทื่ยวยังคงเติบโตอย่างเข้มแข็ง มั่นใจว่า ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและการเตรียมพร้อมมาอย่างดีของมาเลเซียจะสามารถช่วยให้ประเทศฟันผ่าความผันผวนทางเศรษฐกิจในปีนี้อย่างราบรื่น ทั้งนี้ ตั้งแต่แต่วันที่ 5 เม.ย. สินค้าทั้งหมดของมาเลเซียซึ่งส่งออกไปสู่ตลาดสหรัฐฯจะถูกเรียกเก็บภาษีร้อยละ 10 จากนั้น ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. สินค้าส่วนใหญ่จากมาเลเซียจะถูกเก็บภาษีร้อยละ 24
นายอันวาร์แสดงความมั่นใจว่า มาเลเซียจะไม่ประสบภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจในปีนี้(2568) แม้ว่ารัฐบาลทรัมป์ประกาศมาตรการตอบโต้ทางภาษีกับทุกประเทศทั่วโลกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสหรัฐฯเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากมาเลเซียร้อยละ 24 ยอมรับว่า มาตรการของสหรัฐฯจะกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชาวมาเลเซียจำนวนมากที่ค้าขายอยู่ในตลาดระหว่างประเทศ โดยเฉพาะภาคส่งออกสิ่งทอ เครื่องเฟอร์นิเจอร์ ยางพาราและพลาสติก นอกจากนี้อาจจะยากที่มาเลเซียจะดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากสหรัฐฯในระยะปานกลางถึงระยะยาว
#มาเลเซีย
#ประสานอาเซียน
#เจรจาทรัมป์