กระแสคัดค้านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม กล่าวถึง ว่า หลังจากสหรัฐอเมริกาเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้น ทำให้การค้าของไทยจะต้องเปลี่ยนโฉม เพราะถูกกำแพงภาษี จึงมีความจำเป็นที่รัฐบาลไทยต้องหารายได้ใหม่ๆ ซึ่งรายได้จากการท่องเที่ยวมีส่วนสำคัญมากที่สุด ดังนั้น เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์จึงตอบโจทย์การสร้างรายได้ใหม่ๆ ส่วนข้อกังวลเรื่องการติดการพนัน ยอมรับว่า น่าเป็นห่วง ส่วนตัวเคยไปสิงคโปร์และเคยคุยกับผู้บริหารของมารีน่า เบย์ แซนด์ส ผู้บริหารได้เล่าให้ฟังว่า สิงคโปร์จะมีองค์กรหนึ่งหากสมาชิกในครอบครัวเข้าไปเล่นแล้วมีคนในครอบครัวไม่เห็นด้วย สามารถเข้าไปร้องเรียนได้ที่องค์กรนี้ ซึ่งจะมีการแบล็คลิสต์ไม่ให้คนนั้นเข้าไปอีก ซึ่งประเทศไทยจะมีหน่วยงานลักษณะนี้เช่นกัน คิดว่า เรื่องนี้รัฐบาลไทยคิดรอบคอบ
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ส่วนรายละเอียดอื่นๆคุยในสภาได้ ส่วนเสียงคัดค้าน ตนคิดว่าหากเรื่องนี้มีการพูดกันในสภา สส.ที่สนับสนุนจะอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ และมองครบทุกมิติ แต่หากเราไม่ทำอะไรจะไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องบ่อนการพนันผิดกฎหมาย รวมถึงมีคนไทยไปเล่นบ่อนตามแนวชายแดน
เมื่อถามถึงกรณีมีกระแสข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุว่าหากพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยจะขับจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล นายสุริยะ กล่าวว่า ไม่มีหรอก เพราะท่านไม่มายุ่งเรื่องนี้อยู่แล้ว เนื่องจากเป็นเรื่องของรัฐบาล
เมื่อถามต่อว่า มีกระแสข่าวจะนำพื้นที่ท่าเรือคลองเตยมาทำเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์จริงหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ที่ผ่านมารายได้ของท่าเรือ คือการที่เรือมาจอดเทียบท่า จึงอยากพัฒนาพื้นที่ให้มีรายได้มากกว่าเดิม สมมติถ้ามีเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์อยู่ตรงนั้นก็จะมีรายได้เพิ่ม
ก่อนหน้านี้ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ได้เปิดแผนพัฒนาท่าเรือคลองเตยให้กลายเป็น “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” โดยมีพื้นที่กว่า 2,353 ไร่ พร้อมวางเป้าหมายดึงดูดการลงทุนมูลค่ากว่าหนึ่งแสนล้านบาท เพื่อเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์จากท่าเรือขนส่งสินค้าแบบดั้งเดิมสู่ศูนย์กลางโลจิสติกส์ เมืองอัจฉริยะ และศูนย์รวมไลฟ์สไตล์และความบันเทิงครบวงจรระดับโลก นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า แผนการพัฒนาใหญ่ครั้งนี้ครอบคลุมพื้นที่ 2,353 ไร่ของท่าเรือคลองเตย โดยมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านโลจิสติกส์และเศรษฐกิจ ด้านการพัฒนาเมือง และด้านการพัฒนาชุมชน
หนึ่งในหัวข้อสำคัญที่รัฐบาลผลักดัน คือ โครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งรวมถึงกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว ไลฟ์สไตล์ การแสดง วัฒนธรรม และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยรัฐบาลเตรียมนำร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 9 เมษายนนี้ ซึ่งพื้นที่บางส่วนของท่าเรือคลองเตยจะถูกใช้เป็นพื้นที่นำร่องของโครงการ
การพัฒนาท่าเรือคลองเตยในครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่ “การปรับปรุงพื้นที่ท่าเรือเก่า” แต่เป็นการยกระดับสู่ความเป็น “มหานครแห่งอนาคต” ที่เชื่อมต่อทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของกรุงเทพฯ เข้าด้วยกัน โดยมีชุมชน ท่องเที่ยว และเศรษฐกิจเป็นแกนกลางของการเติบโตที่สมดุลและยั่งยืน
#สถานบันเทิง
#ท่าเรือคลองเตย