การขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐต่อประเทศคู่ค้า แม้จะเลื่อนไป 90 วัน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำว่า รัฐบาลมีการเตรียมพร้อมสำหรับมาตรการรับมือต่างๆ รวมถึงการคาดการณ์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นไว้ก่อนแล้ว กระทรวงการต่างประเทศยังมีนายสุริยา จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป็นทีมเจรจา และมีบทบาทสำคัญในการประสานและสนับสนุนการเจรจาของรัฐบาลไทยกับสหรัฐ เอกอัครราชทูตไทย มีบทบาทในการดำเนินความสัมพันธ์ในทุกมิติกับสหรัฐไม่เพียงเรื่องการค้า แต่ยังมีเรื่องของความมั่นคงและการทหารที่กระทรวงการต่างประเทศให้ความสำคัญอย่างมาก ไทยและสหรัฐมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน และมีการพูดคุย รวมถึงเข้าไปโน้มน้าวเจรจาหน่วยงานต่างๆ ของสหรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกมิติ
ส่วนกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ได้ต่อสายหารือกับผู้นำ 4 ชาติในอาเซียน เมื่อวันที่ 6 เมษายน แต่ไม่มีไทยอยู่ในวงนี้ด้วยนั้น นายมาริษยืนยันว่านายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้ติดต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในวันถัดมา ผู้นำจะมีการติดต่อหารือกันตลอดอยู่แล้ว
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจาขอให้สภาผู้แทนราษฎรศึกษาผลกระทบจากการขึ้น
จากนั้น นายภราดร ปริศนานันกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้ขอมติที่ประชุมโดยทั้ง 10 ญัตติ มี 8 ญัตติ ที่มีลักษณะในทำนองเดียวกันคือ ส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาดำเนินการต่อไป และมี 2 ญัตติ คือญัตติของน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และญัตติของนายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่ขอให้ส่งให้คณะกรรมาธิการ (กมธ.)การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาศึกษา กำหนดระยะเวลาพิจารณาศึกษาไว้ 90 วัน จากนั้นนายภราดร ได้สั่งปิดการประชุมในเวลา 22.03 น.
#ภาษีทรัมป์
#อาเซียน