เจพีมอร์แกนคาดเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว แม้ทรัมป์สั่งให้ชะลอมาตรการตอบโต้ภาษี 90 วัน

          ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นักเศรษฐศาสตร์ของเจพีมอร์แกน (JPMorgan) ธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯระบุในรายงานประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจโลกว่า มีแนวโน้มสูงถึงร้อยละ 60 ที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯและทั่วโลกจะเข้าสู่ภาวะชะลอตัวในปีนี้ (2568) ถึงแม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯสั่งให้ชะลอมาตรการตอบโต้ทางภาษีกับประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่ไว้ 90 วัน ยกเว้นประเทศจีน

           รายงานระบุว่า จากปัญหาความสับสนวุ่นวายในขณะนี้ในเรื่องนโยบายการค้าของรัฐบาลทรัมป์และปัญหาการเงินการคลังในประเทศสหรัฐฯ ตลอดถึงการร่วงลงอย่างหนักของดัชนีตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทั่วโลก กระทบต่อความมั่นใจของนักลงทุน ทำให้ยากที่สหรัฐฯจะเลี่ยงภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ นอกจากนี้ หากปัจจัยอื่นๆไม่เปลี่ยนแปลง เจพีมอร์แกน มองการที่รัฐบาลทรัมป์ประกาศเมื่อวานนี้(9 เม.ย.)ให้ชะลอมาตรการตอบโต้ทางภาษีกับคู่ค้ากว่า 60 ประเทศทั่วโลก เป็นความเคลื่อนไหวในเชิงบวก

           แต่ไม่ใช่ว่าปัจจัยอื่นๆจะคงที่เสมอไป ทำให้ภาพรวมของสถานการณ์ในปัจจุบันยังน่าเป็นห่วง พูดให้ชัดเจนคือ เจพีมอร์แกน มองว่า การที่สหรัฐฯประกาศให้เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลกในอัตราเท่ากันหมดที่ร้อยละ 10 ถือเป็นอัตราภาษีที่สูงอยู่ราว 7.5 เท่า เมื่อเทียบกับมาตรการภาษีในช่วงสงครามการค้าในยุคที่รัฐบาลทรัมป์บริหารประเทศสมัยแรกในปี 2561-2562  นอกจากนั้น ประเด็นที่น่าเป็นกังวลอีกเรื่องหนึ่งคือ การที่สหรัฐฯปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสูงถึงร้อยละ 125 เทียบเท่ากับปรับขึ้นภาษีราว 860,000 ล้านดอลลาร์  ทั้งเชื่อว่า สงครามการค้าของสหรัฐฯกับทั่วโลกยังไม่สิ้นสุด หากแต่อยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น

#เจพีมอร์แกนเชส

#เศรษฐกิจโลกชะลอตัว

#ผลกระทบสงครามการค้า