สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า อดีตประธานาธิบดียุน ซอกยอลของเกาหลีใต้ ไปปรากฎตัวต่อศาลแขวงกลางกรุงโซล ซึ่งเปิดไต่สวนคดีกบฎเป็นนัดแรกเมื่อเช้าวันนี้ (14 เม.ย.) เป็นผลพวงจากการที่นายยุนประกาศใช้กฎอัยการศึกให้กองทัพเข้ามาควบคุมความสงบเรียบร้อยเมื่อคืนวันที่ 3 ธ.ค.67 โดยผู้พิพากษาที่รับผิดชอบคดีนี้ได้ดำเนินการตามขั้นตอนการไต่สวน เช่น ถามชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิดและข้อมูลส่วนตัวอื่นๆของนายยุนในฐานะจำเลย โดยนายยุนให้การปฏิเสธข้อหากบฎ ระบุว่า การจะบอกว่า เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆเพียง 2-3 ชั่วโมง ไม่มีการใช้ความรุนแรง และต่อมา สภานิติบัญญัติแห่งชาติลงมติประกาศกฏอัยการศึก ซึ่งเขายอมรับมติของสภา เข้าข่ายกระทำผิดอาญาในข้อหากบฎ เป็นเรื่องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ขณะเดียวกัน พนักงานอัยการในฐานะโจทก์ ไดแสดงหลักฐานต่างๆ กล่าวหานายยุนมีการวางแผนประกาศกฏอัยการศึกล่วงหน้า และส่งทหารไปยังอาคารสภา โดยสั่งการให้ทหารพังกระจกหน้าต่างของอาคารบุกเข้าไป และให้ตัดกระแสไฟฟ้า แต่สมาชิกสภานิติบัญญัติขัดขืนคำสั่งของทหาร ปีนรั้วเข้าไปยังอาคารรัฐสภา และลงมติให้เพิกถอนระกาศกฎอัยการศึกของนายยุนสำเร็จ ด้านผู้เชี่ยวชาญหลายคน รวมทั้งนายมิน คยังซิก ทนายความ คาดว่า ศาลอาจจะมีคำพิพากษาคดีนี้ในเดือนส.ค.นี้ แต่เมือพิจารณาว่า คดีมีหลักฐานเอกสารกว่า 70,000 หน้าและพยานบุคคลอีกจำนวนมาก มีความเป็นไปได้ที่ศาลอาจจะขยายเวลาการทำคำพิพากษาเพิ่มเติมจากกำหนดดังกล่าว
คดีนี้ หากศาลตัดสินว่า มีความผิดทางอาญา นายยุนจะเป็นอดีตประธานาธิบดีคนที่ 3 ของประเทศที่กระทำผิดในข้อหากบฎ มีโทษเช่น จำคุกตลอดชีวิต หรืออัตราโทษสูงสุดคือ ประหารชีวิต แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่า ศาลอาจจะตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต เนื่องจากศาลเกาหลีใต้หยุดใช้การลงโทษด้วยการประหารชีวิตมาตั้งแต่ปี 2540 ก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญของเกาหลีใต้มีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ 8-0 เสียงเมื่อวันที่ 4 เม.ย.ให้ถอดถอนนายยุนจากตำแหน่งจากการประกาศกฏอัยการศึก
#อดีตผู้นำเกาหลีใต้
#ปฏิเสธข้อหากบฏ