รองผู้ว่าฯกทม. รับนำร่างติดใต้ซากสตง.เป็นเรื่องยากส่งผลปรับตัวเลขผู้เสียชีวิต

           การกู้ซากตึก สตง. รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้า โดยกล่าวว่า สามารถลดยอดของซากตึกถล่มลงมาเหลือ 14 เมตร จากความสูงเมื่อวานนี้ที่ 16 เมตร โดยกระบวนการทำงานเมื่อทยอยหั่นความสูงออกก็จะเจอปูน พอเอาปูนออกก็จะเจอเหล็ก เป็นเหล็กที่ถักกันเป็นแพ ซึ่งเป็นงานไม่ง่าย หลังจากนี้จะปรับการทำงานให้ทีมใช้ถังออกซิเจนเข้าไปตัดเหล็ก ซึ่งจะต้องหาพื้นที่เรียบและมั่นคงเพื่อวางถังออกซิเจน และเมื่อนำทีมเข้าไปด้านใน เครื่องจักรจะต้องหยุดทำงาน โดยวางแผนไว้ 2 ช่วงแรกตี 4-7 โมงเช้า และช่วงที่ 2 เที่ยงถึงบ่ายสอง เพื่อนำเศษปูนและเหล็กออก

          การนำร่างผู้สูญหายที่ติดค้างอยู่ภายในอาคารออกมานั้นเป็นเรื่องยาก เจ้าหน้าที่ยังคงนำชิ้นส่วนออกมาเป็นระยะ และกระบวนการในการตรวจสอบทางนิติเวชต้องให้มั่นใจเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด เหตุผลคือ ผู้ที่รออาจจะไม่ดีกับเขา จึงอยากขอความเข้าใจว่าตัวเลขอาจจะมีการปรับช้า ส่วนฝนที่ตกไม่ได้เป็นอุปสรรครบกวนพื้นที่ด้านในสำนักอนามัย กรุงเทพมหานครได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว โดยกั้นน้ำให้มีเส้นทางเดียวเพื่อนำไปฆ่าเชื้อให้สะอาด และโรยปูนขาวก่อนระบายน้ำออก

          สำหรับการพบร่างผู้เสียชีวิต 44 ราย บาดเจ็บ 9 ราย ติดค้าง 50 ราย    

          วันที่ 17 เม.ย.68 เวลา 14.00 น.ศูนย์ปฏิบัติการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ตร. จะแถลงข่าว ความคืบหน้ากรณีการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล และส่งคืนผู้เสียชีวิตให้กับญาติ กรณี ตึก สตง.ถล่ม จากเหตุแผ่นดินไหว แถลงข่าวโดย พล.ต.ต.วาที  อัศวุตมางกุล ผบก.พฐก. และ  พล.ต.วิรุฬห์ ศุภสิงห์ศิริปรีชา ผบก.นต. ณ ห้องประชุม ชั้น 3 นิติเวชรพ.ตร.

#สตงถล่ม