ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯเปิดเผยกับนักข่าวในห้องทำงานรูปไข่ ทำเนียบขาว กรุงวอชิงตันดี.ซี.เมื่อวันพฤหัสบดี(17 เม.ย.)ว่า สหรัฐฯต้องการจะเจรจาการค้ากับทุกประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศจีน พร้อมคาดว่าการเจรจาการค้ากับประเทศต่างๆจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในช่วง 3-4 สัปดาห์ข้างหน้า โดยนายทรัมป์แสดงความเห็นเรื่องนี้ 1 สัปดาห์ หลังประกาศให้ระงับมาตรการภาษีต่างตอบแทนกับประเทศต่างๆไว้ 90 วันจนถึงเดือนก.ค.นี้ แต่สหรัฐฯยังคงเรียกเก็บภาษีพื้นฐานร้อยละ 10 ยกเว้นประเทศจีนที่ถูกเก็บภาษีร้อยละ 145 ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯร้อยละ 125 ทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างประเทศทั้งสองซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ 2 อันดับแรกของโลก
นายทรัมป์ได้เปรียบเทียบสหรัฐฯดุจเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่สวยงาม แม้ว่ากิจการของห้างฯจะได้รับผลกระทบจากธุรกิจช้อปปิ้งออนไลน์ในปัจจุบัน แต่ทุกคนยังอยากจะเข้ามาซื้อสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ หมายถึงการที่ประเทศอื่นๆต้องการจะเข้าถึงตลาดสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ เพื่อขายสินค้าต่างๆ แต่มาถึงจุดๆหนึ่ง ถ้าสหรัฐฯและหุ้นส่วนทางการค้าไม่อาจจะทำข้อตกลงการค้าได้ สหรัฐฯจะใช้วิธีจำกัดการนำเข้าสินค้าด้วยการกำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างแดน ขณะเดียวกัน สหรัฐฯยังคงเดินหน้าเชิญชวนประเทศต่างๆให้เข้ามาซื้อของในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ต่อไป ซึ่งถ้าหุ้นส่วนการค้าใดรู้สึกไม่ชอบมาตรการภาษีของสหรัฐฯ พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องเข้ามาจับจ่ายซื้อของจากห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ อีกต่อไป
ในประเด็นเกี่ยวกับจีน นายทรัมป์ปฏิเสธ ที่จะให้รายละเอียดว่า เขาได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนโดยตรงหรือไม่ แต่นายทรัมป์ระบุว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่จีนมาหลายครั้ง อีกทั้งแจ้งผลการหารือต่างๆไปยังนายสีเพื่อทราบด้วย พร้อมแสดงความมั่นใจว่า สหรัฐฯและจีนจะตกลงแก้ไขปัญหาพิพาทเรื่องภาษีได้ในที่สุด
#ทรัมป์
#เจรจาการค้า
#มาตรการภาษี