นางคริสตาลินา จอร์เจียวา กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกในปีนี้ (2568) จะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย แม้ว่ารัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะประกาศมาตรการทางภาษีกับทั่วโลกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยรายงานเศรษฐกิจโลก (World Economic Report) ฉบับใหม่ ที่ไอเอเอฟจะเผยแพร่ต่อสาธารณชนในวันอังคารหน้า (22 เม.ย.) มีเนื้อหาส่วนหนึ่งคือการปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกจากเดิมที่ระบุว่า จะเติบโตระหว่างร้อยละ 3.3 ในปีนี้และปีหน้า
นางจอร์เจียวา กล่าวว่า มาตรการภาษีของสหรัฐฯจะมีผลกระทบหลักๆ 3 ข้อต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะประเทศเล็กๆและตลาดเกิดใหม่ที่พึ่งพาการส่งออก ได้แก่
ข้อที่ 1 คือ สถานการณ์ที่ไม่นอนทำให้รัฐบาลต้องจัดงบประมาณเพิ่มขึ้นไว้รองรับเหตุฉุกเฉินต่างๆ
ข้อที่ 2 กำแพงภาษีที่สูงขึ้นกระทบการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก แม้ว่าภาษีจะสร้างรายได้เพิ่มขึ้น แต่อีกด้านหนึ่ง มาตรการนี้จะทำให้การค้าขายระหว่างประเทศลดลงเช่นกัน
ข้อที่ 3 คือ มาตรการกีดกันตลาดจะกระทบประสิทธิภาพการผลิตของภาคอุตสาหกรรมในระยะยาว
จึงแนะนำให้ทุกประเทศดูแลกิจการในประเทศของตนเองให้ดำเนินไปอย่างราบรื่น เช่น การปรับนโยบายคลังอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ปรับลดระดับของหนี้สาธารณะตามความเหมาะสม พร้อมทั้งปรับนโยบายการเงินให้มีความยืดหยุ่นและเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยให้ธนาคารกลางมีอิสระในการกำหนดอัตราดอกเบี้ย เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
ในระหว่างวันที่ 25-27 เม.ย.นี้ จะมีการประชุมประจำฤดูใบผลิ ระหว่างไอเอ็มเอฟกับธนาคารโลก ที่กรุงวอชิงตันดี.ซี. ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า มาตรการทางภาษีของสหรัฐฯจะกระทบการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก อีกทั้งจะทำให้เงินเฟ้อขยับตัวสูงขึ้นในระยะสั้น
..
#ไอเอ็มเอฟ
#เศรษฐกิจโลก
#มาตรการภาษีสหรัฐ