พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชมเชย พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.50 น.ได้นำทีมตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริปฏิบัติภารกิจเร่งด่วนนำส่งหัวใจดวงที่ 123 และ 124 จากต่างจังหวัดเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ภายในระยะเวลา ติดกันอย่างเฉียดฉิว ซึ่งถือเป็นภารกิจที่เต็มไปด้วยความกดดัน เนื่องจากข้อจำกัดด้านเวลาและการเดินทางที่ต้องประสานงานอย่างแม่นยำ ในการส่งต่อชีวิตให้กับผู้รอคอยหัวใจ 2 ดวงนี้ได้มีชีวิตใหม่กับหัวใจที่แข็งแรง
ด้าน พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์จราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ภารกิจสำคัญในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรเพื่อส่งต่ออวัยวะช่วยชีวิต ยังคงเป็นหนึ่งในพันธกิจหลักที่ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริยึดถือและดำเนินการมาโดยตลอด และต้องชมเชยตำรวจจราจร สภ.เมืองอุดรธานี , ตำรวจจราจร สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา , นักบิน และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน ที่ช่วยในภารกิจนี้ และอำนวยความสะดวกจราจรลำเลียงหัวใจจากโรงพยาบาลต้นทางนำส่งถึงสนามบินด้วยความรวดเร็วด้วยเช่นกัน
สำหรับหัวใจดวงที่ 123 ได้รับแจ้งจากสภากาชาดไทยขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริสนับสนุนการนำส่งหัวใจจากจังหวัดอุดรธานี โดยใช้นักบินอาสานำส่งมาทางเครื่องบินส่วนตัวลงจอดที่ฝูงบิน 604 กองบิน 6 ดอนเมือง ด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวนทำให้การเดินทางล่าช้า ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงถึงที่หมาย และเมื่อคำนวณเวลาเดินทางต่อไปยังโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งมีระยะทางไกลและการจราจรหนาแน่น ทีมแพทย์ระบุว่ามีเวลานำส่งเพียง 30 นาทีเท่านั้น ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริจึงเร่งเตรียมกำลังพร้อมอำนวยการจราจรทันทีที่หัวใจเดินทางถึง
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งภารกิจด่วนอีกภารกิจหนึ่ง คือการนำส่งหัวใจดวงที่ 124 ซึ่งจะเดินทางจากโรงพยาบาลหาดใหญ่มายังกรุงเทพมหานคร ระยะทาง 473 ไมล์ โดยใช้เครื่องบินส่วนตัวเช่นกัน ใช้เวลาทำการบิน 2 ชั่วโมง จะลงจอดที่อาคารผู้โดยสาร MJets สนามบินดอนเมือง โดยมีกำหนดการห่างจากหัวใจดวงแรกเพียง 15 นาที และจะต้องนำส่งไปยังโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
ด้วยสถานการณ์ที่หัวใจทั้งสองดวง มาถึงในเวลาไล่เลี่ยกันและต้องส่งไปยังคนละโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริจึงวางแผนแบ่งกำลังออกเป็นสองขบวน นำโดยหน่วยจักรยานยนต์เคลื่อนที่เร็ว พร้อมวางแผนเส้นทางล่วงหน้า และรับการสนับสนุนจากตำรวจจราจรในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้สามารถนำส่งหัวใจดวงที่ 123 ถึงโรงพยาบาลศิริราชภายในเวลา 23 นาที (เหลือเวลาให้ทีมแพทย์วิ่งสุดชีวิตนำหัวใจลงจากรถวิ่งตรงไปยังห้องผ่าตัดเพียง 7 นาที เท่านั้น) และหัวใจดวงที่ 124 ถึงโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ภายในเวลาเพียง 11 นาที ทั้งสองภารกิจสำเร็จลุล่วงทันเวลาให้แพทย์สามารถดำเนินการปลูกถ่ายได้ทันที
นอกจากนี้ พล.ต.ท.นิธิธรฯ กล่าวว่า ภารกิจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงหัวใจนักสู้ของเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่พร้อมเสี่ยงชีวิตเพื่อเปิดเส้นทางให้ลมหายใจของผู้อื่นได้เดินทางต่อ พร้อมกันนี้ขอขอบคุณผู้บริจาคอวัยวะทุกท่าน ที่เสียสละเพื่อเพื่อนมนุษย์แม้ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน และขอชื่นชมความทุ่มเทของทีมตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ที่สามารถวางแผนและปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ความกดดันสูง หัวใจทั้ง 123 และ 124 ไม่ใช่เพียงสัญลักษณ์แห่งชีวิตใหม่ แต่คือภาพแทนของความเสียสละ ความร่วมมือ และหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของทุกคนที่มีส่วนในภารกิจครั้งนี้
มีรายงานว่า นักบินเสื้อแขนยาวสีฟ้า หมวกแก๊ปสีขาว ที่บินมาส่ง หัวใจดวงที่ 123 ด้วยเครื่องบินเล็ก ถึงกองบิน 6 ดอนเมือง ได้ทันภายในเวลาที่กำหนด คือ อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ หรือโจอี้ นางสาวไทย พ.ศ.2552 ภารกิจนี้สำเร็จด้วยดี ถึงที่หมาย 21.11 น. ใช้เวลานำส่งจากดอนเมืองถึง รพ.ศิริราช 23 นาที
#ส่งหัวใจ
#นางสาวไทยปี2552