ฝากขังผัดแรก 'ชวน หลิง จาง' นอมินี ไชนาเรลเวย์นับเบอร์ 10-ปฏิเสธทุกข้อหา แต่รู้จัก 3 คนไทย

          หลังคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สอบปากคำนายชวนหลิง จาง ครบ 48 ชั่วโมง ผู้ต้องหา คดีนอมินี บริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ล่าสุดเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้นำตัวนายชวน ฝากขังผัดแรก ที่ศาลอาญารัชดาฯ ระหว่างการคุมตัวฝากขัง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายจางถึงประเด็นการจ้างคนไทยถือหุ้นเป็นนอมินี แต่นายจางไม่ตอบคำถามกับสื่อมวลชน ผู้สื่อข่าวถามย้ำอีกว่าอยากจะพูดหรือปฏิเสธอะไรหรือไม่ นายจางส่ายหน้า ก่อนเจ้าหน้าที่จะคุมตัวไปฝากขังศาลอาญาฯต่อไป

          สำหรับการยื่นประกันตัว เนื่องจากคดีนี้ เป็นคดีที่มีความเสียหายเป็นวงกว้างและเป็นบุคคลต่างชาติ และเป็นเรื่องที่ศาลอนุมัติออกหมายจับ พ.ต.ต.วรณัณ ศรีล้ำ โฆษกกรมการสอบสวนคดีพิเศษ  ระบุว่า อยากให้ศาลเป็นผู้พิจารณาในขอประกันตัว ในส่วนของชั้นพนักงานสอบสวนตอนแรกเข้าใจว่าเขามีการจะยื่นเอกสารมาแต่ทางเจ้าที่ได้มีการอธิบายจึงไม่ทราบว่าทางเอกสารนั้นได้มีการยื่นขอประกันตัวหรือไม่

          โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังระบุอีกว่า  การสอบปากคำนายชวนหลิง จาง ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาโดยให้การว่า ตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐวิสาหกิจของประเทศจีนจริง แต่มาลงทุนในสัดส่วน ร้อยละ49 ของบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 พร้อมยอมรับว่ารู้จัก ผู้ถือหุ้นไทยทั้ง 3 คน คือ นายประจวบ, นายโสภณ และนายมานัส จริง แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลการถือหุ้นบริษัทไชน่าฯ  โดยให้ข้อมูลเฉพาะในส่วนฝั่งประเทศจีนเท่านั้น ทั้งนี้พบว่า การสอบปากคำในครั้งนี้มีจุดเชื่อมต่อที่จะเร่งขยายผลในการสืบสวนสอบสวนพอสมควร

          ส่วนประเด็นเงิน 2 พันล้านบาทที่มีการกู้ยืมจากกรรมการบริษัท พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า ตัวเงินเป็นของคนไทย ที่มีการกู้ยืมเงิน ซึ่งก็เป็นอีกประเด็นที่จะต้องขยายผลต่อว่าแหล่งที่มาของเงินจริง ๆ มาจากไหน เพราะตอนนี้มีการตรวจสอบสถานะของคนไทยทั้ง 3 คน เนื่องจากทั้งสามคนไม่มีสถานะที่เพียงพอในการไปดำเนินการทางธุรกิจ และไม่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้โดยตรง 

          เมื่อถามว่าทั้ง 3 คนนี้มีเงิน 2 พันล้านบาทมานอนไว้ในบัญชีเพียงเท่านั้นหรือไม่ พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า ในส่วนของรายละเอียดมีการกู้ยืมเงินมาใช้ในส่วนของธุรกิจ แต่รายละเอียดอื่น ๆ ต้องรอการสอบสวนต่อไป  ส่วนจะมีเส้นเงินไหนไปถึงชาวจีนหรือไม่ก็อยู่ระหว่างการสอบสวนเช่นเดียวกัน

          ด้านการติดตาม 3 คนไทย พ.ต.ต.วรณัน บอกว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปเยอะ และมีข้อมูลบางส่วนที่เป็นประโยชน์รับว่าทั้งสามคนยังอยู่ในประเทศไทย ซึ่งทางดีเอสไอมีการสื่อสารออกไปหลายครั้ง เราต้องการทราบว่าเขามาทำหน้าที่อะไรในบริษัทนี้เพื่อทำให้สำนวนในคดีนั้นสมบูรณ์ แต่เจ้าตัวไม่ออกมาแสดงตัวจึงนำไปสู่การออกหมายจับ และเจ้าหน้าที่มีหลักฐานพอสมควรในการที่จะออกหมายจับทั้ง 3 คน เพื่อให้เกิดกระบวนการทางกฎหมายในการนำตัวทั้งสามคนมาให้ข้อมูลในรายละเอียดทั้งหมด

          ส่วนคนที่ให้ที่พักหรือให้ที่หลบซ่อน หากช่วยเหลือก่อนออกหมายจับก็ยังคงไม่ไม่มีความผิดแต่หลังจากที่มีการออกหมายจับก็คงจะมีความผิดในการช่วยเหลือผู้ต้องหา หลังจากนี้จะมีการออกหมายจับใครเพิ่มเติมหรือไม่ ระบุว่าที่คุยกับทีมสอบสวน กำลังเร่งรวบรวมขยายประเด็นเพิ่มเติม

          ส่วนจะมีการเปิดตู้คอนเทนเนอร์เก็บเอกสารที่อาคาร สตง.ที่มีอายัดไว้ทั้ง 24 ตู้ นั้น พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า ตอนนี้เร่งให้บริษัทไชน่าฯ ทำแผนผังองค์กรส่งมาให้ก่อน เพราะเวลาที่เราจะตรวจสอบเอกสารเราจะต้องมีคนที่ทำหน้าที่หลัก ในการตรวจเอกสารอธิบาย และกำหนดในวันที่ 23 เม.ย.นี้ กิจการร่วมค้าผู้ก่อสร้าง จะส่งแผนผังองค์กรเข้ามาให้กับดีเอสไอ และจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่นกรมโยธาธิการและผังเมืองเข้ามาช่วย เนื่องจากเขามีความรู้ในเรื่องของเอกสารพวกนี้ และหลังจากนั้นก็จะมีการดำเนินการต่อไป

          ส่วนนายบินลิง วู จะอยู่เบื้องหลังหรือไม่อยู่ในสำนวนและอยู่ระหว่างการตรวจสอบขอทำการสืบสวนสอบสวนก่อน ส่วน “นายตง เซี่ย” ซึ่งมีรายงานว่าเป็นกรรมการคนแรกของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ จะมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้หรือไม่นั้น เจ้าหน้าที่ดีเอสไออยู่ระหว่างขยายผลตรวจสอบ.

#สตงถล่ม