ภารกิจค้นหาผู้ประสบเหตุและการรื้อถอนซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เขตจตุจักร นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.) รายงานความคืบหน้าว่า ความสูงเฉลี่ยของเศษวัสดุอยู่ที่ 1.37 เมตร ขณะนี้บริเวณด้านหน้าเราเห็นผนังของชั้นใต้ดินแล้ว แผนดําเนินการวันนี้จะดําเนินการในโซน D ที่ด้านหลังที่ติดกับอาคารจอดรถ จะเริ่มเอาตัวชิ้นวัสดุ ปูน เหล็กออกเพื่อปรับระดับให้เท่ากับด้านหน้า ถ้าเป็นไปตามแผนน่าจะถึงระดับสามารถลงไปทํางานในพื้นชั้นใต้ดินได้ในเร็วๆ นี้ เมื่อวานมีเคสพบผู้ติดค้าง 1 ร่าง ที่โซน D ซึ่งก็ต้องคอยทางนิติเวช ยืนยันตัวตนก่อนเพื่อให้ญาติสามารถรับร่างออกมาบำเพ็ญกุศลได้
สำหรับการขนเศษวัสดุเฉลี่ยวันละ 300 เที่ยว เมื่อวาน 343 เที่ยว วันก่อน 333 เที่ยว รวมแล้วอยู่ที่ประมาณ 10 ตัน ซึ่งในช่วงแรกๆ จะน้อยหน่อย เพราะว่าเราเน้นในเรื่องการค้นหาผู้ที่ยังมีโอกาสในการที่จะรอดชีวิตอยู่ พอหลังจากนั้นก็เป็นเรื่องที่ต้องเร่งในการที่จะเอาเศษวัสดุออกเพื่อค้นหาร่างก็จะเร็วขึ้น
ล่าสุด ค้นพบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 65 ราย อยู่ระหว่างค้นหาอีก 29 ราย
ส่วนการเข้าตรวจสอบแบ่งชุดปฏิบัติการเป็น 4 ชุด แต่ละชุดจะประกอบด้วย ตำรวจ กรมโยธาธิการฯ และดีเอสไอ ชุดที่ 1 และ ชุดที่ 2 มีผู้แทนจากบริษัท อิตาเลียนไทยฯ นำตรวจค้น ส่วนชุดที่ 3 และ 4 จะมีผู้แทนกิจการร่วมค้า PKW นำตรวจค้น เน้นหาเอกสารการดำเนินโครงการ และเอกสารที่เกี่ยวกับการเสนอราคา ทั้งนี้ จะให้ความสำคัญกับการตรวจสอบตู้ที่ 19 เนื่องจากมีเอกสารอยู่จำนวนมาก
ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีดีเอสไอในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษร่วมกับกรมโยธาฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจเอกสารที่อยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ สิ่งที่อยากได้คือ เอกสารการก่อสร้าง Shop Drawing เอกสารระหว่างผู้รับจ้างช่วง เอกสารการทำงานของวิศวกรจีน-ไทย รายละเอียดการตรวจวัสดุ เช่น คอนกรีต เหล็ก ซึ่งเป็นเอกสารที่สตง.ไม่มี ยืนยันเอกสารอยู่ครบ ที่ก่อนหน้านี้ชาวจีนลักลอบขนออกไป ได้กลับมาครบแล้ว
วานนี้ มีตัวแทนจาก บริษัท อิตาเลียนไทยฯ และกิจการร่วมค้า PKW เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย ส่วนบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ไม่ได้ส่งผู้แทน เพราะบริษัท อิตาเลียนไทยฯ มาในนามบริษัทร่วมอยู่แล้ว ทั้งนี้ เอกสารที่ได้จะถูกนำไปใช้ 2 ส่วนคือ การสืบสวนข้อเท็จจริงของดีเอสไอ และการสืบสวนข้อเท็จจริงของกรมโยธาฯ ซึ่งทำงานร่วมกัน ส่วนการเรียกสอบปากคำวิศวกร 40 รายนั้น จะเริ่มทยอยสอบปากคำวันละ 10 ราย เริ่มวันที่ 29 เมษายน ละจะสอบปากคำไปต่อเนื่อง 4 วัน
ที่ สน.บางซื่อ พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเข้าติดตามความคืบหน้าคดีอาคาร สตง.ถล่ม ประเด็นสำคัญเน้นที่สัญญาจัดซื้อจัดจ้าง แบบก่อสร้าง ก่อนและหลังแก้ไข การเซ็นอนุมัติแก้ไขแบบแปลน รวมถึงเอกสารตรวจรับพัสดุแต่ละงวด ที่ก่อนหน้านี้ตัวแทนสตง.นำเอกสารมาส่งมอบ แต่ยังไม่ครบมีมากถึง 10 ลัง นอกจากนี้ ยังเร่งตรวจสอบประเด็นผู้ออกแบบ-วิศวกร ตึก สตง. ปลอมลายเซ็นวิศวกรที่คุมงานก่อสร้างตึก สตง. ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบชื่อวิศวกร ผู้คุมงานทั้งหมด ผู้เซ็นชื่อผู้ควบคุมงาน
ส่วนความคืบหน้าการสอบพยาน ทั้งผู้รับเหมาก่อสร้าง คนคุมงาน และบริษัทออกแบบสอบปากคำไปแล้วมากกว่า 100 คน แต่สำนวนคดียังไม่เสร็จ ต้องรอผลสอบจากสภาวิศวกร ผลตรวจพิสูจน์วัสดุ เหล็กก่อสร้าง จากพิสูจน์หลักฐาน และผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของรัฐบาล
#สตงถล่ม